อดีต ส.ว.ยอดนักร้อง ยื่น “นิคม” ร้องหน่วยงานเกี่ยวข้องสอบ ศาล รธน.กระทำบิดเบือนพระบรมราชโองการ เหตุตุลาการศาล รธน.มีมติให้ “ชัช” พ้น ปธ.ศาลรธน.แต่ยังเป็นตุลาการ ก่อนร่วมเลือก “วสันต์” นั่ง ปธ.แทน แจง ลาออก ปธ.ศาล รธน. ต้องพ้นตุลาการด้วย ทำให้ร่วมเลือก ปธ.คนใหม่ไม่ได้ ชี้ คดีที่ “ชัช-วสันต์” ตัดสินนับเป็นโมฆะ
วันนี้ (22 เม.ย.) ที่รัฐสภา นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 62 ประกอบมาตรา 70 ยื่นหนังสือต่อนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา เรียกร้องให้ส่งเรื่องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบการกระทำของศาลรัฐธรรมนูญ และสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ว่ามีการกระทำที่บิดเบือนพระบรมราชโองการหรือไม่ จากการตรวจสอบข้อมูลที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาได้ขอทราบความชัดเจนในด้านกฎหมาย กรณีที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ เห็นชอบให้นายชัช ชลวร พ้นจากตำแหน่งประธานศาลรัฐธรรมนูญ โดยยังคงดำรงตำแหน่งเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และเลือกกันเองให้นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ดำรงตำแหน่งประธานศาลรัฐธรรมนูญนั้น พบว่าหนังสือที่ทางสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญชี้แจงมา มีการบิดเบือนพระบรมราชโองการอย่างเห็นได้ชัด จากข้อความที่ว่า “... ซึ่งบุคคลทั้งเก้าได้ประชุมและเลือกกันเองให้คนหนึ่งเป็นประธานศาลรัฐ ธรรมนูญ...” มาเป็น “... ซึ่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้งเก้าได้ประชุมและเลือกกันเองให้คนหนึ่งเป็น ประธานศาลรัฐธรรมนูญ...”
นายเรืองไกร กล่าวว่า เมื่อ นายชัช ลาออกจากตำแหน่งประธานศาลรัฐธรรมนูญ ทำให้ต้องพ้นจากตำแหน่งตุลาการไปด้วย ซึ่งการที่นั่งเป็นประธานในที่ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เป็นการกระทำที่ไม่ชอบตามกฎหมาย และส่งผลให้การทำหน้าที่ประธานศาลรัฐธรรมนูญของนายวสันต์ ไม่ชอบด้วยกฎหมายเช่นกัน โดยมีการบิดเบือนเนื้อหาในราชกิจจานุเบกษาว่ายังมีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจำนวน 9 คน อย่างไรก็ตามเมื่อการทำหน้าที่ของบุคคลทั้งสองไม่ถูกต้อง ดังนั้นการร่วมตัดสินในคดีต่างๆ จะถือเป็นโมฆะหรือไม่
ด้านนายนิคม กล่าวว่า ตนจะรับเรื่องไว้และจะมอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบคำร้องดังกล่าว ก่อนส่งเรื่องต่อไปยังผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อให้ดำเนินการต่อไป