“เฉลิม” ตั้งโต๊ะเปิดร่างปรองดองฉบับใหม่ บอกซุ่มเขียนมาแล้ว 6 เดือน ใช้แผนนับ 1 ประเทศไทย มี 6 มาตรา ล้างผิดทุกม็อบตั้งแต่ปี 49 เบรกทุกคดีที่เกี่ยวข้อง บังคับศาลจำหน่ายคดี โละคำพิพากษา ทั้งปล่อยผีนักโทษ ระงับข้อกล่าวหา คปค. สั่ง ครม.เยียวยาคนซวย พร้อมเดินสายกล่อมชาวบ้านหลังปิดสภา ก่อนชงสมัยประชุมหน้า ลั่นชาติสงบแน่ “พีรพันธุ์” ชูบูรณาการนิรโทษกรรม เริ่มสร้างชาติกันใหม่ “คำรณวิทย์” โผล่แจม
วันนี้ (18 เม.ย.) ที่รัฐสภา2 ห้องประชุม 3301 ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้เสนอร่างพระราชบัญญัติการปรองดองแห่งชาติ พ.ศ…. พร้อมด้วยนายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) และคณะ
ร.ต.อ.เฉลิมแถลงว่า ตนได้เริ่มตนมาประมาณ 6 เดือนในการเสนอร่าง พ.ร.บ.การปรองดองแห่งชาติเพื่อให้บ้านเมืองเกิดความสามัคคีสงบสันติ ซึ่งจะใช้ยุทธการนับ 1ประเทศไทย ซึ่งร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวจะมีทั้งสิ้น 6 มาตรา สาระสำคัญคือในมาตรา 3 ระบุว่า การกระทำใดๆ ที่เกิดจากการชุมนุมทางการเมือง หรือการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองหรือการกระทำที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำดังกล่าวตั้งแต่ปี 2549 จนถึงวันที่ พ.ร.บ.มีผลบังคับใช้ถือว่าไม่เป็นความผิด กรณีที่ผู้กระทำผิดอยู่ระหว่างสอบสวน ให้ระงับการสอบสวนนั้น ถ้าอยู่ระหว่างฟ้องร้อง ให้พนักงานอัยการ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระงับการฟ้อง ถ้าอยู่ระหว่างพิจารณาคดีให้ศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดี ถ้าได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วให้ถือว่าผู้นั้นไม่เคยต้องคำพิพากษาว่าได้กระทำผิด ถ้าผู้นั้นรับโทษอยู่ก็ให้การลงโทษนั้นสิ้นสุดลง ทั้งนี้ ให้นำมาใช้บังคับการกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐและบุคคลใดๆ อันเกี่ยวเนื่องจากการป้องกัน ระงับ หรือปราบปราม ในเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง การแสดงความเห็นทางการเมือง
ร.ต.อ.เฉลิมระบุว่า นอกจากนี้ในมาตรา 4 ระบุว่า บรรดาการกล่าวหาการกระทำผิดบุคคลใดๆ ที่เกิดจากคำสั่งของของคณะปฏิรูปการปกครองฯ เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 หรือจากบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งจากคำสั่งคณะปฏิรูปฯ ไม่ว่าเป็นการกล่าวหาในข้อหาใด ให้ถือว่าเป็นการกล่าวหาในความผิดทางการเมือง ให้การกล่าวหานั้นระงับไป ให้ถือว่าผู้นั้นมิได้กระทำความผิด ในมาตรา 5 ระบุว่า สำหรับผู้ได้รับความเสียหายเนื่องจากการกระทำในเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง การแสดงความเห็นทางการเมืองหรือการกระทำใดที่เกี่ยวเนื่องในมาตรา 3 ให้ ครม.พิจารณาช่วยเหลือเยียวยาความเสียหายตามความเหมาะสม
“ผมขอยืนยันว่าไม่มีเรื่องทรัพย์สินเงินทองมาเกี่ยวข้องอย่างที่สื่อบางฉบับเสนอไป ที่ผมไม่ยังนำเรื่องเข้าสู่พรรคเป็นวาระการพิจารณาเพราะต้องแจ้งให้พรรคทราบก่อนว่าคณะกำลังจะนำเสนอร่าง พ.ร.บ.การปรองดองแห่งชาติ รู้ว่าการเมืองวันนี้ค่อนข้างสับสน ถ้าเอาเข้าสภาโดยไม่ให้พี่น้องประชาชนเข้าใจ ก็จะมีคนออกมาโต้แย้งว่า จะแก้มาตรา 112 หรือเอาเงินคืนให้คนหนึ่งคนใด ซึ่งผมจะทำความเข้าใจจากการเดนสายไปขอนแก่นวันที่ 27 เมษายน และไปทั่วภาคอีสาน ส่วนวันที่ 24 พฤษภาคมจะปราศรัยใหญ่ที่ทุ่งศรีเมือง จะนำร่างส่งให้ทุกพรรคการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย และหากองค์กรใดอยากให้ผมไปชี้แจงก็พร้อม หากเมื่อสภาเปิดพรรคเพื่อไทยเห็นว่าร่างดังกล่าวพอใช้ได้ จะนำเสนอในนามพรรคตนก็เอาด้วย หากเสื้อแดงบอกว่าจะนำเสนอในนามเสื้อแดงตนก็ไม่ขัดข้อง แต่หากไม่มีใครเอาด้วยตนจะเสนอในนามสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยจะมอบหมายให้นายพีรพันธุ์ พาลุสุข เป็นผู้เสนอร่างดังกล่าว” รองนายกรัฐมนตรีกล่าว
เมื่อถามว่า คนในพรรคมีหลายก๊กหลายเหล่ามีผลประโยชน์คาบเกี่ยวกันจะทำให้ร่างดังกล่าวไม่สามารถเดินหน้าได้ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ตนไม่ได้ประโยชน์อะไรจากการเสนอร่างดังกล่าว แต่ประชาชนทั้งประเทศได้ประโยชน์ คดีความทางการเมืองทั้งหลายจะจบ บ้านเมืองจะสงบ
เมื่อถามต่อว่า ตอนนี้ยังมีร่าง พ.ร.บ.ปรองดองทั้ง 4 ฉบับคาอยู่ในสภา ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า หากสภาเห็นด้วยกับร่างไหนก็แล้วแต่ ตนมองว่าร่าง พ.ร.บ.ปรองดองที่อยู่ในสภาสำเร็จยากถ้าได้ก็ขอสาธุด้วย แต่ร่างของตนได้ทั้งพ่วง ส่วนพวกคนในพรรคที่ต่างเสนอก็เก่งๆ กันทั้งนั้น ของตนเพิ่งเริ่ม สำเร็จแน่
นายพีรพันธุ์กล่าวว่า ตนได้ไปศึกษาร่าง พ.ร.บ.ปรองดองตั้งแต่สมัยอดีตและที่ยังคาอยู่ในสภาขณะนี้ว่า การนิรโทษกรรมจะต้องทำอย่างบูรณาการโดยไม่มีเงื่อนไขใด หากยกเว้นคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งจะไม่สำเร็จไม่จบ ตนจึงสนับสนุนร่างของ ร.ต.อ.เฉลิมและตนได้เน้นย้ำว่ามาตรา 5 ในร่างดังกล่าวจะช่วยสร้างหลักความปรองดองให้เกิดขึ้น ถ้าอยากให้กฎหมายดังกล่าวสำเร็จต้องเดินหน้าอธิบายทำความเข้าใจกับประชาชนว่าเกิดจากความไม่เป็นประชาธิปไตย และจะอาศัยกฎหมายดังกล่าวมาเริ่มกันสร้างประเทศใหม่