“ทักษิณ” โฟนอินโวเป็นคนพุทธจิตใจเมตตา รักความเป็นธรรม ถ้าโดนรังแกจะสะกดคำว่าแพ้ไม่เป็น ลั่นยังอดใจรอ หากความเป็นธรรมในไทยไม่มี จะโร่แสวงหาจากนอก โอดประเทศช้ำเยอะแล้ว วอนศาล รธน.เลิกเล่นลิเก ขู่หากผดุงความยุติธรรมไม่ได้จะใช้อำนาจของ ปชช. หยอดเสื้อแดงมีบุญคุณ แต่ภารกิจยังไม่จบยังไม่ได้ ปชต.คืน ต้องเดินหน้าต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 10 เม.ย. เมื่อเวลา 20.40 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และผู้ต้องหาคดีอาญาแผ่นดิน โฟนอินมายังกลุ่มชุมนุมครบรอบ 3 ปีรำลึกเหตุการณ์ 10 เม.ย. 53 ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ความว่า พี่น้องเสื้อแดงไม่ควรต้องมาบาดเจ็บล้มตายเลย ถ้าผู้มีอำนาจในขณะนั้นมีจิตใจเมตตา รักความเป็นธรรม ไม่อำมหิต วันนี้เราได้แต่รำลึกไว้อาลัย แล้วเรียนรู้จากประวัติศาสตร์ต้องไม่ให้เกิดขึ้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราเป็นรัฐบาลต้องเคารพกติกา ไม่ให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นอีก ไม่ใช่ให้คนไม่กี่คนมาตัดสิน แล้วทำลาย ละเมิดอำนาจของประชาชน
รัฐบาลชุดที่แล้วมาจากครรลองที่ไม่ถูกต้อง กล่าวคือมาด้วยความร่วมมือของศาลรัฐธรรมนูญ องค์กรณ์อิสระ และผู้สั่งการอยู่เบื้องหลัง เป็นผลให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ไม่เคยถูกเชื้อเชิญจากนายกฯ ประเทศตะวันตกเลย ใครก็รู้ว่า นายอภิสิทธิ์ ตั้งรัฐบาลอยู่ในค่ายทหาร นายอภิสิทธิ์เที่ยวไปโกรธทูตว่าไม่เชิญไปเยือน โดยลืมนึกว่าตัวเองไม่ได้มาโดยประชาธิปไตย ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้รับการเชิญและมีการมาเยือนอย่างมากมาย เพราะเขาถือว่ามาจากประชาธิปไตย
นช.ทักษิณกล่าวต่อว่า วันนี้ศาลสูงบางคนละเมิดหลักการแห่งกฎหมาย พิพากษาจนศาลชั้นต้นหัวเราะ ดูถูก ว่าทำไมทำให้วิชานิติศาสตร์ไม่สามารถสอนได้ในมาหวิทยาลัย เหตุเพียงเพราะต้องการเอนเองทางการเมืองเท่านั้น ความปรองดองจะเกิดไม่ได้หากผู้รักษากติกายังไม่เป็นกลาง ดังนั้นเราต้องลดความเกลียดชัง อคติ แล้วผู้มีหน้าที่ทำหน้าที่ด้วยความเป็นธรรม มีจิตใจที่เอื้ออารีต่อเพื่อนคนไทยด้วยกัน
“ผมยังมั่นใจว่าผู้พิพากษาส่วนใหญ่เป็นคนดี ยังเห็นความเป็นธรรมในบ้านเมืองเป็นเรื่องสำคัญ แต่มีผู้พิพากษาบางคนเท่านั้นที่คอยรับคำสั่งทำลายประเทศจนบอบช้ำ ตราบใดที่ยังไม่มีความยุติธรรมในแผนดินไทย ซึ่งผมจะรออีกนิด หลังจากนั้นจะไปแสวงหาความเป็นธรรมนอกประเทศ เพื่อให้รู้ไปว่าในโลกนี้ความยุติธรรมต้องมี ผมเป็นคนพุทธ มีหัวใจพุทธ เรื่องของจิตใจเมตตาเป็นธรรม เป็นเรื่องใหญ่สำหรับชีวิต แต่เมื่อไรที่ถูกรังแก คำว่ายอมแพ้ไม่มี สะกดไม่เป็น แต่ถ้าความเป็นธรรมเกิด ทุกสิ่งทุกอย่างสามารถพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง”
นักโทษหนีคดีอาญากล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้พยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตอนแรกบอกไม่ให้แก้ทั้งฉบับ เราก็ไปแก้เป็นรายมาตรา ปรากกฏก็ยังมีพวกเห็นแก่ตัวคอยขัดขวางความเป็นประชาธิปไตย ศาลก็ดันรับคำร้องไว้เสียอีก องค์คณะ 9 คน นั่งพิจารณาเพียง 5 รับไว้พิจารณา 3 ไม่รับ 2 เหมือนเล่นลิเก เลิกเล่นลิเกได้แล้ว จะให้วิงวอนกราบงามๆ ก็เอาทั้งที่ใจไม่อยากจะกราบ ขอให้ท่านทั้งหลายรักษาความยุติธรรม เห็นแก่บ้านเมือง ไม่เช่นนั้นพวกเราต้องใช้อำนาจของประชาชน หากก้าวล่วงต่อไปจนชนิดที่รับไม่ได้ ตนเชื่อว่าประชาชนรับไม่ได้ พวกเราในฐานะตัวแทนประชาชนก็ไม่รับเช่นกัน
“เราพร้อมปฏิบัติตามกติกาทุกอย่าง แต่การบิดเบี้ยวกติกา ใช้องค์กรอิสระ ศาล พร่ำเพรื่อให้เสียหายต่อบ้านเมือง ไม่เป็นผลดีต่อใครเลย วันนี้ได้แต่เรียกร้องและวิงวอนว่า ตนไม่ได้กลับบ้านไม่ใช่เรื่องสำคัญ ขอให้ระบบที่ดีของประเทศกลับคืนมา อย่าทำแบบที่ผ่านมาเลย มันช้ำมามากแล้ว”
นช.ทักษิณ หยอดคำหวานถึงคนเสื้อแดงที่บาดเจ็บ เสียชีวิตว่าเป็นห่วง พยายามทำหน้าที่เท่าที่ทำได้ ทันทีที่เห็นจะต้องส่งคนไปคอยดูแลตลอด ไม่ว่าจะเป็นคนติดคุก หนีคดี บาดเจ็บ ตนถือว่าบุคคลเหล่านี้ไม่เพียงมีบุญคุณต่อตน แต่มีบุญคุณต่อระบอบประชาธิปไตยของประเทศ เพื่อให้คนรุ่นหลังได้อยู่ในสังคมที่เป็นประชาธิปไตย ภารกิจเรายังไม่จบเพราะยังไม่ได้ประชาธิปไตยคืนมา รัฐธรรมนูญ 2550 ได้ให้โอกาสให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลโดยประชาชนไม่ได้เลือก เขาจึงพยายามรักษาไว้ ขณะที่เราพยายามจะผลักดันให้เป็นประชาธิปไตยเสียที ต้องยอมรับว่าเหนื่อยยาก แต่ต้องทำต่อไป ส่วนเรื่องนิรโทษกรรมของพี่น้อง บรรดา ส.ส.พรรคเพื่อไทยก็พร้อมใจเดินหน้า แต่ก็ให้เป็นเรื่องที่ ส.ส.ทุกคนแสดงน้ำใจ