นายกฯ นำ ครม. วางวางพานพุ่มถวายสักการะวันจักรี ก่อนให้สัมภาษณ์ เสียใจรองผู้ว่าฯ-ป้องกัน จ.ยะลาถูกลอบวางระเบิดเสียชีวิต กำชับ จนท.ดูแลความปลอดภัย ชี้รองนายกฯ ควรจะลงพื้นที่ด้วยตัวเอง แต่อ้างคณะใหญ่กลัวเป็นภาระ วอนอย่านำเรื่องคุยบีอาร์เอ็นโยงกัน ยืนยันแนวทางพูดคุยต่อไป ย้ำถึงฝ่ายค้านไม่ใช่การเจรจา
วันนี้ (6 เม.ย.) ที่พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เชิงสะพานพระพุทธยอดฟ้าฯ เมื่อเวลา 09.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี วางพานพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะ อนุสาวรีย์พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ณ ปฐมบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช บริเวณเชิงสะพานพระพุทธยอดฟ้า (ฝั่งพระนคร) เนื่องในวันพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (วันจักรี) และวันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์
ทั้งนี้ ในวันดังกล่าวเมื่อปี 2325 เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ทรงปราบดาภิเษกขึ้นครองราชย์ เป็นปฐมบรมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี โดยทรงตั้งพระปณิธานไว้ว่า “ตั้งใจจะอุปถัมภก ยอยกพระพุทธศาสนา จะปกป้องขอบขัณฑสีมา รักษาประชาชนและมนตรี” ดังนั้นวันที่ 6 เมษายนของทุกปี จึงเป็นวันพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และวันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์ หรือ “วันจักรี” เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ได้ทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ และทรงเป็นปฐมบรมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี อันมีคุณอเนกอนันต์ต่อประเทศชาติและพสกนิกรชาวไทย
ภายหลัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์กรณีคนร้ายลอบวางระเบิดรถยนต์ของนายอิศรา ทองธวัช รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา และนายเชาวลิต ไชยฤกษ์ เจ้าหน้าที่ป้องกันจังหวัดยะลา จนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 5 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งมีเสียงวิจารณ์ว่าคนร้ายยกระดับความรุนแรงมากขึ้น ว่า ยังไม่อยากสรุปให้แบบนั้น แต่รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและได้กำชับเจ้าหน้าที่ทางยุทธวิธีในการดูแลความปลอดภัยทั้งส่วนของเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ จ.ยะลา ให้มากขึ้น และจากเหตุการณ์นี้ทำให้ต้องมาพูดคุยกันว่าจะมีวิธีดูแลความปลอดภัยในพื้นที่อย่างไรและต้องระวังให้มากขึ้น ขณะเดียวกันต้องสร้างขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานด้วย
เมื่อถามว่าขวัญกำลังใจของประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างไร หลังเกิดเหตุรุนแรงต่อเนื่องกับเจ้าหน้าที่ ทั้งเหตุคนร้ายเหตุอุ้มทหารนาวิกโยธินและทำร้ายจนเสียชีวิต จนถึงทำร้ายรองผู้ว่าฯ จ.ยะลา น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ที่ลงไปปฏิบัติหน้าที่ยังมีขวัญและกำลังใจดี แต่ในบางพื้นที่ซึ่งเป็นพื้นที่เฉพาะก็ต้องลงไปให้กำลังใจและดูแลเรื่องเครื่องมือต่างๆโดยเพิ่มในส่วนที่จำเป็นมากขึ้น เช่น รถยนต์ เพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับเจ้าหน้าที่มากขึ้น ดังนั้นผู้ที่เกี่ยวข้องต้องกลับไปประเมินและดูว่ามีอะไรที่ยังดูแลเจ้าหน้าที่ได้ไม่ครบ และจะกำชับนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และฝ่ายความมั่นคงลงพื้นที่ไปดูแลอย่างใกล้ชิดให้มากขึ้น
เมื่อถามว่าถึงเวลาที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ดูแลรับผิดชอบภาพรวมการแก้ปัญหาภาคใต้จะลงพื้นที่ด้วยตัวเองหรือยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า “ค่ะ ก็ควรจะลงไป ท่านเองก็เตรียมจะลงไปอยู่แล้ว และวันนี้ได้ติดตามสถานการณ์อยู่ตลอด เพราะเรามีสถานที่ติดตามสถานการณ์อยู่แล้ว เพราะการลงพื้นที่บางครั้งก็เป็นข้อดีแต่ก็บางครั้งก็น่ากังวลใจด้วยเช่นกัน หากลงไปเป็นคณะใหญ่อาจทำให้เจ้าหน้าที่ต้องทำงานหนักและมาดูแลมากขึ้น และทุกวันนี้มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยต่างๆ สามารถติดตามละเชื่อมการประสานงานได้ทุกกลุ่มอยู่แล้ว”
เมื่อถามถึงข้อสังเกตว่าถึงแม้รัฐบาลจะพูดคุยกับแกนนำกลุ่มบีอาร์เอ็น แต่ทำไมยังเกิดเหตุการณ์รุนแรงต่อเนื่อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ตนไม่อยากให้นำประเด็นมารวมกัน เพราะการที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ไปพบกับแกนนำนั้น เป็นเพียงการเริ่มต้นที่พูดคุย ยังไม่เข้าสู่การเจรจาใดๆทั้งสิ้น ดังนั้นยังไม่มีอะไรที่เป็นจุดเริ่มต้น ส่วนเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดจากความขัดแย้งที่มีมานานนั้น การพูดคุยเพียงครั้งหรือสองครั้งอาจยังไม่ทำให้เกิดความไว้วางใจ เปรียบเหมือนกับคนที่มีความไม่เข้าใจที่ตรงกันกันมาเป็นเวลานานและฝังอยู่ในความรู้สึกจนเกิดความน้อยใจ เมื่อเจอกันก็ต้องพูดคุยให้เกิดความสบายใจกันก่อนแล้วถึงเข้าสู่ขั้นตอนต่อไปถือการเจรจา ตอนนี้ยืนยันว่ายังเป็นการพูดคุยกันเท่านั้น อย่างไรก็ตามแม้จะพูดคุยแต่มาตรการดูแลความสงบยังต้องทำต่อไป
ต่อข้อถามว่ารัฐบาลยืนยันที่จะใช้แนวทางพูดคุยต่อไปแม้จะเกิดเหตุการณ์ขึ้นในพื้นที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ตนมองว่าเป็นทางหนึ่ง แต่ไม่ใช่ว่าเป็นทางเดียวแล้วจะไปหวังยึดทางนี้ว่าจะแก้ได้ ซึ่งในหลายที่ในหลายประเทศไม่ได้ใช่เวลาแค่ครั้งสองครั้งแล้วจะแก้ปัญหาจบ แต่ถือเป็นหนึ่งในวิธีแก้ปัญหา โดยที่การสร้างความเข้าใจและพัฒนาพื้นที่ก็ต้องอยู่เหมือนเดิม ต้องทำทุกทางที่มีโอกาสจะแก้ปัญหา
เมื่อถามกรณีที่ฝ่านค้านมองว่าพูดคุยสันติภาพของรัฐบาลถือว่าล้มเหลวเพราะยังเกิดเหตุรุนแรงในพื้นที่อยู่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวย้ำว่า ไม่ใช่การเจรจา แต่พูดคุย เรายังไม่ได้เริ่มขึ้นตอนเจรจาเลย ไม่อยากให้ด่วนสรุปแบบนั้นและอยากให้กำลังคนทุกส่วน เพราะถ้ามองอีกมุมคนในพื้นที่ก็ขานรับ นานาประเทศก็ขานรับกับวิธีการพูดคุยอย่างสงบ เราจึงต้องเดินหน้าและคิดว่าจะสร้างความเข้าใจอย่างไรมากกว่า