นายกฯ ยันไม่คิดปรับ ครม.ช่วงนี้ ชี้รัฐอยู่นานแค่ไหนขึ้นกับประชาชน ยันเมษาฯ แค่แถลงด้วยวาจาคดีพระวิหารต่อศาลโลก เชื่อเจ้าหน้าที่ดูพวกชุมนุมที่ศรีสะเกษได้ ย้ำสัมพันธ์เขมรยังดี
วันนี้ (5 เม.ย.) ที่โรงแรมคอนราด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเสถียรภาพของรัฐบาลภายหลังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเอกฉันท์กรณีปล่อยเงินกู้ 30 ล้านบาท ว่าไม่มีพฤติการณ์แจ้งเท็จปกปิดข้อเท็จจริงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเรื่องการปล่อยกู้ว่า ความจริงต้องเรียนว่าเสถียรภาพทางการเมืองเป็นสิ่งสำคัญซึ่งเป็นพื้นฐานของการสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ถ้าการเมืองนิ่งการเมืองไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐบาลก็จะทำให้งานนโยบายต่างๆ เดินหน้าเติบโตต่อไปได้ เศรษฐกิจก็จะเจริญเติบโตโดยไม่มีข้อกังวลใจ อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ปัจจัยหนึ่งเท่านั้น ซึ่งเราเองก็ต้องร่วมกันในการที่จะพัฒนาสร้างเสริมด้านเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นซึ่งก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทุกหน่วยงานต้องช่วยกัน
เมื่อถามว่า แสดงว่าไม่มีแนวคิดที่จะปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) อีก โดยเฉพาะในส่วนของพรรคเพื่อไทย น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ครม.เพิ่งปรับไป ตอนนี้ยืนยันว่าไม่มีแนวคิดที่จะปรับ ครม.เพราะเพิ่งมีการดำเนินการไปครั้งล่าสุด
ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจรัฐบาลจะอยู่ครบ 4 ปี โดยไม่มีการยุบสภาก่อนใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เรามาโดยประชาชนก็ต้องทำงานอย่างเต็มที่ ส่วนรัฐบาลจะอยู่นานแค่ไหนนั้นก็อยู่ที่ประชาชน
นายกรัฐมนตรียังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่จะมีคนบางกลุ่มซึ่งไม่ชาวบ้านภูมิซรอล อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ไปปักหลักชุมนุมเพื่อรอฟังการแถลงด้วยวาจาครั้งสุดท้ายของไทยและกัมพูชา คดีที่กัมพูชายื่นขอให้ศาลโลกตีความคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหารเมื่อปี 2505 ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสถานการณ์และความสัมพันธ์ของประเทศว่า ตอนนี้ยังไม่มีรายงานอะไรเข้ามา ความจริงเรื่องของการแถลงด้วยวาจาครั้งนี้ยังไม่มีผลหรือการตัดสินอะไร การตัดสินในเรื่องดังกล่าวจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปี รัฐบาลเองก็ให้เจ้าหน้าที่ประสานงานและทำความเข้าใจให้กับประชาชน
เมื่อถามว่า คนที่ชุมนุมส่วนใหญ่เป็นคนนอกพื้นที่ การแสดงออกอาจทำให้เกิดปัญหาขึ้นหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ที่ดูแลความสงบเรียบร้อยจะพยายามทำความเข้าใจกับประชาชน รัฐบาลก็เร่งประสานงานทำความเข้าใจ ส่วนความสัมพันธ์ไทยและกัมพูชานั้นก็ยังยืนยันว่าทั้งสองประเทศยังมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ในการทำงานก็มีการประสานงานกันทุกระดับโดยเฉพาะในระดับพื้นที่ เจ้าหน้าที่ก็พยายามใช้วิธีการพูดคุยทำความเข้าใจมากกว่าที่จะก่อเกิดความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง พยายามที่จะแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี
เมื่อถามว่า ได้สั่งการหน่วยงายด้านความมั่นคงดูแลความปลอดภัยประชาชนตามแนวชายแดนอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีการแถลงด้วยวาจาที่ศาลโลก นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เป็นหน้าที่ปกติของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง