xs
xsm
sm
md
lg

“ป๋า” แนะเลิกแค้นหันหน้าเข้าหากัน หวังถก BRN ทำสถานการณ์ใต้ดีขึ้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ป๋าเปรม” เปิดโครงการสานใจไทยสู้ใจใต้ รุ่นที่ 19 นำเด็กใต้ใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัวอุปถัมภ์ เพื่อให้เกิดความสามัคคี นำไปสู่สันติสุขที่ยังยืน แนะคนไทยหยุดเคียดแค้นหันหน้าเข้าหากัน ชื่นชม เหล่าทัพ ทำทุกอย่างเพื่อนำความสุขสู่ประชาชน พร้อมแนะให้กำลังใจ ผบ.เหล่าทัพ ขณะเดียวกัน หวังการหารือกับกลุ่มบีอาร์เอ็นจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น “ประยุทธ์” สั่งหามาตรการดูแลทหารที่ออกปฏิบัติหน้าที่ หลังถูกบึ้มรถ เตือนรัฐอย่าปล่อยโจรตั้งโจทย์คุย หวั่นเสียเปรียบ ลั่นไม่ปล่อยนักโทษโจรใต้


ที่สโมสรกองทัพบก เทเวศร์ วันนี้ (4 เม.ย.) พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ "สานใจไทย สู่ใจใต้" รุ่นที่ 19 โดยมี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี และผู้บัญชาการเหล่าทัพ มาร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง ขาดเพียง พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ที่มอบหมาย พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด มาเป็นผู้แทน โดยมีเยาวชนเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 240 คน แบ่งเป็นเด็กชาย 95 คน เด็กหญิง 145 คน ซึ่งเยาวชนทั้งหมด จะถูกส่งไปใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัวอุปถัมภ์ใน 10 จังหวัดภาคกลาง ระหว่างวันที่ 4-19 เมษายน เพื่อศึกษาวิถีชีวิตตลอดจนการใช้ชีวิตร่วมกันเพื่อให้เกิดความรักความสามัคคี เพื่อนำไปสู่สันติสุขอันยั่งยืนต่อไป

พล.อ.เปรม กล่าวให้โอวาทตอนหนึ่งว่า ขอบคุณทุกฝ่ายให้ความร่วมมือโดยดีมาตลอด ถ้านับปัญหาที่เกิดขึ้นใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค.47 จนถึงวันนี้เป็นเวลา 9 ปีเศษ โดยบรรดาผู้เสียสละความสุข ทั้ง ผบ.เหล่าทัพ ผู้ว่าราชการจังหวัด เพียรพยายามนำความสุขมามอบคืนให้กับประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ใต้ ด้วยความปลาบปลื้ม ภาคภูมิใจที่มีส่วนช่วยเหลือ แสดงให้เห็นว่า เหล่าทัพ ผู้ว่าฯ ครอบครัวอุปถัมภ์สมควรได้รับเกียรติยกย่อง เพราะเป็นผู้ที่เข้าใจในสิ่งที่พวกเรากำลังไขว่คว้าหาความสงบสุขร่มเย็น ไขว่คว้าหาความรักสามัคคีถือเป็นสาระสำคัญของโครงการ

หวังว่าอีกไม่ช้า ไม่นานเท่าไรความสุข ความสงบเข้าใจระหว่างคนไม่เข้าใจกันก็จะเข้าใจกันด้วยความรักความสามัคคี อยากให้ทุกคนโดยเฉพาะคณะกรรมการโครงการเน้นว่า เราทำเพื่อความสุข สงบของพี่น้องของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาคิดกันว่า เราจะทำอย่างไร เพื่อให้ประสบความสำเร็จในการมอบคืนความรักความสามัคคี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เคยพระราชนิพนธ์เพลงที่พระราชทานให้กับพวกเรา ซึ่งเป็นเพลงที่มีใจความว่า หากเราหันหน้าเข้ามาคุยกันด้วยเหตุผล ด้วยความรัก ด้วยความเป็นพี่น้อง เพื่อความสงบสุขเราก็จะประสบความสำเร็จ แต่ถ้ามีแต่ความเคียดแค้นซึ่งกันและกันจะเป็นอุปสรรคในการนำความสงบสุขมาสู้ประเทศชาติ

"คิดว่า 9 ปีมากพอที่เราจะหันหน้าเข้าหากันด้วยความรักความสามัคคีได้แล้ว นี่คือสิ่งที่ผมภาวนา คิดว่าถ้าเด็กๆ ทั้ง 19 รุ่นและครอบครัวอุปถัมภ์เข้าใจว่า ชาติบ้านเมืองจะสงบสุขได้อย่างไรก็จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ดูแลชาติบ้านเมือง ขอบคุณทุกฝ่ายที่มุ่งมั่นปรารถนาให้โครงการลุล่วงไปด้วยดี ขอให้ความจงรักภักดีของพวกเราที่มีต่อชาติบ้านเมือง สถาบันพระมหากษัตริย์ ได้โปรดดลบันดาลให้พวกเรามีความสุข และได้ประโยชน์"

ต่อมา พล.อ.เปรม ให้สัมภาษณ์ถึงความความหวังต่อกระบวนการพูดคุยระหว่างสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กับแกนนำกลุ่มบีอาร์เอ็นเพื่อสันติภาพ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ทุกอย่างมีข้อดี ข้อเสีย เราหวังว่าจะดีขึ้น เพราะถ้าไม่หวังจะไปพูดคุยทำไม ทั้งนี้จากปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตนอยากให้หันหน้าเข้ามาพูดคุยกัน ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างที่ดำเนินการทำอยู่ เราต้องมีความหวังว่าให้ประเทศชาติเดินไปข้างหน้าได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า อยากฝากอะไรถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. พล.อ.เปรม กล่าวว่า ผบ.ทบ.ได้ทุ่มเท และเสียสละทุกอย่างให้สถานการณ์พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ดีขึ้น ซึ่งตนอยากให้ทุกคนให้กำลังใจ ผบ.สูงสุด , ผบ.ทบ. , ผบ.ทอ. , ผบ.ทร. และ ผบ.ตร. ด้วย เพราะเขาต้องการกำลังใจ อย่างน้อยที่สุดทุกคนต้องเข้าใจว่า ทำเพื่อชาติบ้านเมือง โดยตนก็พยายามพูดเช่นนี้ แต่ไม่ค่อยได้การตอบรับเท่าไหร่ เพราะมุ่งไปที่รายละเอียด แต่คิดว่าสิ่งที่เราต้องช่วยกันคือให้กำลังใจผู้ปฏิบัติ ให้พวกท่านเหล่านี้มีกำลังใจ ไม่ให้เกิดความเครียด โมโห ต้องให้คำหวาน แต่ไม่ใช่ตนยกยอ และให้กำลังใจว่า ให้ทำไปเถิด คนไทยที่อยู่ข้างหลังจะคอยให้กำลังใจ

ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงกรณีที่รถโดยสารของทหารที่กลับจากการตรวจเลือกทหารถูกลอบวางระเบิดที่ จ.ยะลาว่า ถือเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งเราต้องมีการป้องกันใหม่ โดยตนได้สั่งการไปแล้วให้หามาตรการเพิ่มเติม แต่ปัญหาอยู่ที่ระยะทางที่ไกล และ คนมีจำนวนมาก หากการตรวจเลือกทหารช้าจะทำให้การเดินทางยากขึ้น ทำให้เกิดอันตรายเวลาเดินทางกลับ จึงสั่งการไปยัง พล.ท.สกล ชื่นตระกูล แม่ทัพภาคที่ 4 ให้ดำเนินการแก้ไขปัญหา เพราะยังเหลือเวลาในการตรวจเลือกทหารอีก 2 วัน ซึ่งทหารถือว่า เป็นเป้าในการถูกโจมตี เราระวังอยู่แล้ว แต่ไม่ได้ผล 100 % ทั้งนี้ต้องแยกให้ออก เช่น การเกณฑ์ทหารเราไม่สามารหลีกเลี่ยงได้ สถานที่มีความชัดเจนว่าอยู่ตรงไหน ระยะทางเป็นเส้นทางป่า และภูเขา อาจมีผู้ร้าย ซุ่ม วางระเบิด ดังนั้นให้ดูว่าอะไรที่ง่ายกว่ากันระหว่างคนทำ กับคนระวัง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกวันนี้ถือว่าทำดีที่สุดแล้ว แต่เมื่อเกิดปัญหาก็ต้องแก้ไขกันไป ไม่ใช่เราแก้ไม่ได้ เป็นเรื่องของสถานการณ์ ระยะทาง และเวลา ซึ่งเจ้าหน้าที่ทำงานหนัก อยากถามกลับไปยังกลุ่มคนที่ก่อเหตุว่าต้องการอะไร เพราะว่าการคัดเลือกทหาร เราสามารถทำให้คนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้รับเบี้ยเลี้ยง เงินเดือน สวัสดิการ มีการเรียนรู้ฝึกอาชีพ รวมถึงการศึกษา แต่เขายังทำลาย ทุกวันนี้เราไม่เคยไปรังแกใคร อย่ามาบอกว่า ให้เราลดความรุนแรง เพราะเราไม่ใช่ผู้ใช้ความรุนแรง

ส่วนที่มีการเรียกร้องให้ยกเลิกกฎอัยการศึกและ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในพื้นที่นั้น กฎหมายมีกี่ข้อและเจ้าหน้าที่ใช้กี่ข้อ ต้องตีความให้ดีก่อนออกมาบอกว่า ยกเลิกหรือไม่ยกเลิก กฎหมายทุกอย่างมีไว้ใช้ประโยชน์ ผมเข้าใจจึงใช้ถูก

“ที่มองว่าแกนนำ บีอาร์เอ็นที่ สมช.ไปคุยด้วยไม่สามารถควบคุมระดับปฏิบัติในพื้นที่ได้นั้น คิดว่า เขาติดต่อสื่อสารเร็วหรือไม่ เขาสามารถส่งวิทยุผ่านคลื่นความถี่ หรือ เล่นไลน์ กันได้หรือเปล่า ถ้ายังไม่ได้ก็ยังไม่ได้ อย่างฟิลิปปินส์ ต่อสู้กันมาถึง 50 ปี ตั้งโต๊ะพูดคุยกันเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว แต่ปัจจุบันนี้ยังมีการยิงกัน ซึ่งไม่เร็วขนาดนั้น ต้องใจเย็นๆ เพราะมีอยู่หลายกลุ่มหลายพวก จะไปถึงทุกกลุ่มเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แต่ก็ดีกว่าไม่ได้พูด ก็พูดกันไป ผมไม่ได้ขัดแย้งอะไรกันอยู่แล้ว ฝ่ายความมั่นคงทำหน้าที่ในการรักษาสภาพแวดล้อมให้เกิดความปลอดภัยเพื่ออำนวยการพูดคุยสันติภาพ และการจะให้เกิดสันติภาพพูดคุยกันก็ต้องมีมาตรการทำให้ฝ่ายโน้นออกมาพูดกับเรา คือ การบังคับใช้กฎหมาย เขาจะได้ออกมาพูดคุยต่อรอง ไม่ใช่ให้เขาเป็นคนตั้งโจทย์การพูดคุยทุกเรื่อง ถ้าเป็นอย่างนี้รัฐจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ซึ่งเราเป็นเจ้าหน้าที่ ใครทำผิดกฎหมายต้องมาตรวจสอบกันว่า ถูกหรือผิด มีหลักฐานหรือไม่ ถ้าไม่มี ก็มาเคลียร์กัน แต่ถ้ามีหลักฐานก็ต้องลงโทษ ไม่ใช่จะปล่อยทั้งหมด คงไม่ได้ ไม่เช่นนั้นผู้ร้ายทั้งประเทศก็ต้องปล่อยกันหมด”

ผบ.ทบ. กล่าวว่า พล.อ.เปรม ท่านก็ให้กำลังใจ ผบ.เหล่าทัพในการทำงานมาตลอดอยู่แล้ว และให้กำลังใจทุกคน ไม่เคยลำเอียง เพราะทุกคนทำตามหน้าที่ และสนับสนุนการแก้ไขปัญหา









กำลังโหลดความคิดเห็น