ลูกหาบเพื่อไทยโผล่ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ อ้างมุกเก่าสองมาตรฐาน จี้ยกคำร้อง “ส.ว.สมชาย” ค้านแก้ รธน. ป้องรัฐสภาทำตามคำแนะนำศาลแล้ว เตือนไม่ควรขยายอำนาจตัวเองให้เป็นเครื่องมือทางการเมือง ขู่ระงับเจอม็อบแน่ เชื่อรีบพิจารณาเหตุถูกลดทอนอำนาจ
วันนี้ (3 เม.ย.) ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ก่อนที่คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะมีการประชุมเพื่อพิจารณาว่าจะรับคำร้องของนายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ที่ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยสั่งรัฐสภายุติการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 68 และมาตรา 237 และยุบ 6 พรรคร่วมรัฐบาล ไว้วินิจฉัยหรือในเวลา 14.00 น. ปรากฏว่าช่วงเช้า นายสิงห์ทอง บัวชุม สมาชิกพรรคเพื่อไทย เข้ายื่นหนังสือถึงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้พิจารณายกคำร้องของนายสมชาย โดยนายสิงห์ทองกล่าวว่า ที่ต้องมายื่นครั้งนี้ก็เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญดำเนินการด้วยความเป็นธรรม ไม่สองมาตรฐาน เพราะการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐสภานั้นเป็นการทำตามอำนาจหน้าที่เพื่อคุ้มครองหลักนิติธรรมให้บ้านเมือง และแก้ไขเป็นรายมาตราตามที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยให้คำแนะนำไว้ก่อนหน้านี้ทั้งนี้หากศาลมีคำสั่งรับคำร้องของนายสมชาย และสั่งให้รัฐสภาระงับหรือชะลอการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะส่งผลกระทบต่อรัฐสภาทำให้ไม่สามารถลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันนี้ได้ และจะค้างการพิจารณาเช่นเดียวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ดังนั้น ศาลรัฐธรรมนูญจึงไม่ควรที่จะขยายอำนาจของตนเองจะทำให้ตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง เพราะที่จะมีการแก้ไขไม่ใช่การลิดรอนสิทธิประชาชนและลดอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ
“หากศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งระงับการแก้ไขรัฐธรรมนูญแบบรายมาตรา ที่มีการดำเนินการกันอยู่นี้ อาจส่งผลให้ประชาชนออกรวมตัวเพื่อทวงถาม เหตุผลถึงความชอบธรรมของศาลรัฐธรรมนูญว่า มีคำวินิจฉัยแบบสองมาตรฐานหรือไม่ ซึ่งผมขอสงสัยว่าทำไมการพิจาณาคำร้องวันนี้ศาลมีความเร่งรีบจนผิดปกติ ไม่เหมือนกับเมื่อครั้งที่ผมยื่นร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาสั่ง พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ อดีตประธานองค์การพิทักษ์สยาม ยุติการชุมนุม ซึ่งตอนนั้นก็เป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนก็บ้านเมือง แต่ศาลก็ไม่รับพิจารณาเร่งด่วนแบบนี้ จึงน่าคิดว่า หรือเป็นเพราะศาลรัฐธรรมนูญคิดว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในขณะนี้จะเป็นการลดทอนอำนาจศาลจึงต้องรีบรับพิจารณา แต่ก็ยังเชื่อว่าศาลจะใช้อำนาจโดยให้ความเป็นธรรม” นายสิงห์ทองกล่าว
วันนี้ (3 เม.ย.) ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ก่อนที่คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะมีการประชุมเพื่อพิจารณาว่าจะรับคำร้องของนายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ที่ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยสั่งรัฐสภายุติการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 68 และมาตรา 237 และยุบ 6 พรรคร่วมรัฐบาล ไว้วินิจฉัยหรือในเวลา 14.00 น. ปรากฏว่าช่วงเช้า นายสิงห์ทอง บัวชุม สมาชิกพรรคเพื่อไทย เข้ายื่นหนังสือถึงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้พิจารณายกคำร้องของนายสมชาย โดยนายสิงห์ทองกล่าวว่า ที่ต้องมายื่นครั้งนี้ก็เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญดำเนินการด้วยความเป็นธรรม ไม่สองมาตรฐาน เพราะการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐสภานั้นเป็นการทำตามอำนาจหน้าที่เพื่อคุ้มครองหลักนิติธรรมให้บ้านเมือง และแก้ไขเป็นรายมาตราตามที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยให้คำแนะนำไว้ก่อนหน้านี้ทั้งนี้หากศาลมีคำสั่งรับคำร้องของนายสมชาย และสั่งให้รัฐสภาระงับหรือชะลอการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะส่งผลกระทบต่อรัฐสภาทำให้ไม่สามารถลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันนี้ได้ และจะค้างการพิจารณาเช่นเดียวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ดังนั้น ศาลรัฐธรรมนูญจึงไม่ควรที่จะขยายอำนาจของตนเองจะทำให้ตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง เพราะที่จะมีการแก้ไขไม่ใช่การลิดรอนสิทธิประชาชนและลดอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ
“หากศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งระงับการแก้ไขรัฐธรรมนูญแบบรายมาตรา ที่มีการดำเนินการกันอยู่นี้ อาจส่งผลให้ประชาชนออกรวมตัวเพื่อทวงถาม เหตุผลถึงความชอบธรรมของศาลรัฐธรรมนูญว่า มีคำวินิจฉัยแบบสองมาตรฐานหรือไม่ ซึ่งผมขอสงสัยว่าทำไมการพิจาณาคำร้องวันนี้ศาลมีความเร่งรีบจนผิดปกติ ไม่เหมือนกับเมื่อครั้งที่ผมยื่นร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาสั่ง พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ อดีตประธานองค์การพิทักษ์สยาม ยุติการชุมนุม ซึ่งตอนนั้นก็เป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนก็บ้านเมือง แต่ศาลก็ไม่รับพิจารณาเร่งด่วนแบบนี้ จึงน่าคิดว่า หรือเป็นเพราะศาลรัฐธรรมนูญคิดว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในขณะนี้จะเป็นการลดทอนอำนาจศาลจึงต้องรีบรับพิจารณา แต่ก็ยังเชื่อว่าศาลจะใช้อำนาจโดยให้ความเป็นธรรม” นายสิงห์ทองกล่าว
