“ส.ว.เจตน์” สงสัยคืนตำแหน่ง “พงศพัศ” เป็นข้อตกลงก่อนลงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.หรือไม่ ชี้กลับมานั่งมีผลกระทบ 2 หน่วยงานแน่ แนะนายกฯ ตบรางวัลนั่ง รมต.ช่วยแทน
วันที่ 11 มีนาคม ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 10.00 น. การประชุมวุฒิสภาที่มีนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม โดยก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า จากกรณีที่ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ แพ้เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.จะกลับเข้ารับตำแหน่งเดิม คือรอง ผบ.ตร. และเลขาธิการ ป.ป.ส. โดยมีเสียงสนับสนุนคับคั่งจากข้าราชการประจำ ไม่แน่ใจว่าเป็นข้อตกลงก่อนลาออกเพื่อเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.หรือไม่ก็ตาม แต่ตนก็ไม่เห็นด้วย เพราะขณะนี้ พล.ต.อ.พงศพัศได้เป็นนักการเมืองไปแล้ว โดยการรับเลือกตั้งเป็นผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ในนามพรรคเพื่อไทย เมื่อท่านจะกลับเข้ารับราชการนั้น จริงอยู่ที่ไม่มีข้อกฎหมายห้ามและยังสามารถให้ข้าราชการอื่นๆ ทำได้เช่นเดียวกันตามระบอบประชาธิปไตย แต่กรณีของ พล.ต.อ.พงศพัศต่างกัน เพราะตำแหน่งเดิมเป็นถึงผู้บริหารระดับสูงในหน่วยงานทั้งสอง และเพิ่งจะลาออกไปลงเลือกตั้ง
นพ.เจตน์กล่าวว่า การเป็นนักการเมืองแล้วกลับมาเป็นข้าราชการทันทีจะมีผลกระทบต่อหน่วยงานทั้งสองอย่างใหญ่หลวง ผิดจากการกลับเข้ารับราชการของนักการเมืองอื่นๆ เพราะท่านเคยมีสังกัดและในตำแหน่งระดับสูงของข้าราชการในหน่วยงานสำคัญที่เป็นต้นน้ำของกระบวนการยุติธรรม สามารถให้คุณให้โทษคดี หรือเรื่องที่เกี่ยวพันกับพรรครัฐบาล ฝ่ายค้านได้ หากสั่งให้ปล่อยคดีหรือเพิ่มโทษ ทำให้ความเป็นกลางของข้าราชการเสียไป ท่านเองก็จะทำผิดมาตรฐานจริยธรรมและจรรยาบรรณของตำรวจตามกฎ ก.ตร. ว่าด้วยประมวลจริยธรรมและจรรยาบรรณของตำรวจ พ.ศ. 2553 ข้อ 5 อนุ 7 ซึ่งให้ดำรงตนในยุติธรรม และ ข้อ 7 อนุ 2 ต้องมีความเป็นกลางทางการเมือง การล้างภาพทางการเมืองต้องใช้เวลาในกฎหมายอื่นๆ จะห้ามนักการเมืองดำรงตำแหน่ง จะให้มีระยะเวลาเว้นวรรคเพื่อล้างภาพทางเมือง โดยทั่วไปให้เวลา 2-5 ปี แต่ พล.ต.อ.พงศพัศกลับจะเข้ารับราชการทันทีจึงผิดหลักการ เท่ากับส่งข้าราชการการเมืองเข้าดำรงตำแหน่งข้าราชการประจำ ทั้งที่กฎหมายกำหนดให้นักการเมืองเป็นผู้กำหนดนโยบายสำหรับให้ข้าราชการปฏิบัติตามเท่านั้น
นพ.เจตน์กล่าวอีกว่า อนึ่ง การกลับเข้ารับราชการตำรวจที่รอคิวเลื่อนตำแหน่งอยู่ หากท่านกลับมานั่งเลขาธิการ ป.ป.ส. เท่ากับนักการเมืองสองคนนั่งทับตำแหน่งกันอยู่ ดังนั้น ถ้านายกรัฐมนตรียังยืนยันจะรับกลับเข้าราชการเพราะมีเสียงสนับสนุน ตนเสนอให้นายกฯ ตั้ง พล.ต.อ.พงศพัศ เป็นรัฐมนตรีช่วย หรือรองนายกฯ ดูแล ป.ป.ส. หรือ สตช. ตำแหน่งใหญ่กว่าเดิมอีก แต่ไม่เสียหลักการระหว่างนักการเมืองกับข้าราชการประจำ