“นายกฯยิ่งลักษณ์” จัดรายการทีวีแจงการเยือนสวีเดน เบลเยียม กระชับสัมพันธ์ ขณะเดียวกัน ยืนยันไทยพร้อมเป็นประตูสู่อาเซียน เดินหน้าพลังงานสะอาด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันนี้ (9 มี.ค.) รายการ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบประชาชน” ซึ่งบันทึกเทปไว้ขณะเดินทางเยือนราชอาณาจักรสวีเดน และเบลเยียม อย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 4-7 มีนาคม โดยมี นายธีรัตน์ รัตนเสวี เป็นผู้ดำเนินรายการ
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า การเดินทางเยือนราชอาณาจักรสวีเดน ซึ่งเป็นประเทศใหญ่ และเป็นประตูสู่ยุโรปเหนือ เพื่อเพิ่มปริมาณการค้าขายระหว่างกัน แลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงวิชาการเกี่ยวกับพลังงานทดแทน พลังงานสะอาด และนาโนเทคโนโลยีต่างๆ
นอกจากนี้ การเดินทางเยือนทั้ง 2 ประเทศ เพื่อเป็นการตอกย้ำความสัมพันธ์ที่มีมานานกว่าร้อยปี และซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่สมเด็จพระราชาธิบดี คาร์ลที่ 16 กุสตาฟ และสมเด็จพระราชินีซิลเวีย แห่งสวีเดน ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้เข้าเฝ้าฯ
ทั้งนี้ ยังได้ให้ความเชื่อมั่นต่อทั้ง 2 ประเทศ และกลุ่มประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป หรือ อียู กับเศรษฐกิจของไทย พร้อมกันนี้ ได้ย้ำว่าไทยพร้อมต้อนรับนักลงทุน และนักท่องเที่ยวจากสหภาพยุโรปในฐานะประตูสู่อาเซียน เพื่อดึงนักลงทุนเข้ามาไทย รวมถึงการลงทุนในด้านโครงสร้างพื้นฐานของไทยภายใต้งบประมาณ 2 ล้านล้านบาท
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ได้เดินทางไปเยียมชมเมืองซิมไบโอ ซิตี (Symbio City) ซึ่งอดีตเคยเป็นเมืองที่มีปัญหามลพิษจากอุตสาหกรรม แต่สามารถเปลี่ยนเมืองให้ใช้พลังงานสะอาดทั้งหมด พร้อมปรับพฤติกรรมของประชาชนในการแยกขยะ ซึ่งมองว่าการแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงวิชาการเรื่องพลังงานทดแทนจะช่วยให้ไทยได้รับประโยชน์ และอาจนำแนวทางของเมืองซิมไบโอ ซิตี มาเป็นต้นแบบการสร้างเมืองใหม่ของไทยด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการท่องเที่ยวว่า นักท่องเที่ยวจากสวีเดนได้มาเที่ยวเมืองไทยปีละประมาณ 3.5 แสนคน โดยคนไทยอาศัยที่สวีเดนประมาณ 3 หมื่นคน และสวีเดนมีเที่ยวบินตรงมายังจังหวัดภูเก็ต ซึ่งแผนการดึงนักท่องเที่ยวให้มาไทยมากขึ้นจะเน้นไปที่ผู้สูงอายุที่มาท่องเที่ยว และรักษาสุขภาพในไทย เนื่องจากไทยมีเทคโนโลยีทางการแพทย์ไม่แพ้ที่ใด และราคาไม่สูง แต่อาจติดปัญหากฎระเบียบต่างๆ จึงได้ขอความร่วมมือจากสวีเดนให้ส่งเสริม และแก้ไขกฎระเบียบดังกล่าว
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า หลังจากที่สหภาพยุโรปรับจดทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือจีไอข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ของไทยแล้ว จะเดินหน้าขอจดทะเบียนจีไอกาแฟดอยตุง และกาแฟดอยช้าง เพิ่มเติม ซึ่งมองว่า สหภาพยุโรปได้ให้ความสำคัญกับตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์พอสมควร
นายกรัฐมนตรี ยังได้เชิญชวนให้ประชาชนมาชมรายละเอียดงาน Thailand 2020 ก้าวใหม่ เชื่อมไทยสู่โลก ที่จัดแสดงที่ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ ระหว่างวันที่ 8-12 มี.ค. ซึ่งเป็นนิทรรศการเกี่ยวกับโครงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท โดยรัฐบาลยินดีรับฟังความคิดเห็น เป็นแผนการลงทุนของประเทศ นำภาพการลงทุน ทั้งเรื่องการพัฒนาจากการใช้ถนนมาเป็นรถไฟรางคู่ ทำให้ชีวิตประชาชนสะดวกรวดเร็วขึ้นอย่างไรบ้าง ก็อยากเชิญให้ประชาชนมาชมงานนี้ให้มากๆ เรียกว่าเป็นอนาคตของประเทศไทย ในปี 2020