ผบ.ทบ.ลงใต้รับทราบสถานการณ์ หลังมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ส่วนข่าวคาร์บอมบ์หาดใหญ่ แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้ว่าฯ สงขลาวางมาตรการรับมืออยู่แล้ว เผยทหารพราน เหยียบกับระเบิดชายแดนเขมร แม่ทัพภาค 2 ประท้วงกัมพูชาไปแล้วหลังแอบเข้ามาวางใหม่ รับพื้นที่ชายแดนเสี่ยงแต่ต้องระวังตัว
เช้าวันนี้ (8 มี.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พร้อมด้วย พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร เสนาธิการทหารบก และคณะเดินทางลงพื้นที่ค่ายสิรินธร อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้จาก พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไปติดตามและรับทราบสถานการณ์เพราะขณะนี้สถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทั้งฝ่ายที่จะแก้ไขปัญหา และผู้ที่ก่อเหตุความรุนแรง ซึ่งทั้งสองฝ่ายพยายามที่จะคลี่คลายสถานการณ์ให้ดีขึ้น แต่ก็ยังมีผู้ที่ไม่เห็นด้วยอยู่ แต่เรื่องนี้ก็ต้องดำเนินการต่อไป โดยจะมีการบังคับใช้กฎหมาย รวมถึงมาตรการทั้ง 5 กลุ่มงาน
ส่วนกระแสข่าวที่ว่าจะเกิดคาร์บอมบ์ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลานั้น ตนขอให้ไปถามคนที่มาบอกว่าใครจะทำ รู้เพียงแต่ว่าจะมีเกิดขึ้น แต่ก็มีแค่คนพูดเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อยังมีการต่อสู้กันอยู่ก็ต้องมีข่าวว่าจะมีการลอบวางระเบิด ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าเจ้าหน้าที่จะตั้งรับมาตรการในเชิงรุกและเชิงป้องกันได้มากแค่ไหน ซึ่งได้พูดคุยกับทางแม่ทัพภาคที่ 4 และผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาทราบว่าได้มีการเตรียมการและปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว
“เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีจับกุมตรวจค้นและจับกุมตามกฎหมาย ได้อาวุธและกระสุนปืนเป็นจำนวนมาก โดยมีการปฏิบัติการ 20 กว่าจุด ซึ่งจะต้องดำเนินการสอบสวนต่อไปว่ามีอะไรที่เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุความรุนแรงบ้าง หรือเป็นอาวุธที่ใช้กระทำความผิดในคดีทั่วไป ทั้งนี้ไม่มีมาตรการใดที่จะป้องกันได้ 100% ตราบใดที่เจ้าหน้าที่และประชาชน หรือกลุ่มคนต่างๆ ยังไม่ร่วมมือกันที่ปฏิบัติตามกฎหมาย หรือปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ในการเฝ้าระวัง ไม่มีงานใดที่เจ้าหน้าที่สามารถดูแลได้ตลอดเวลา เนื่องจากเจ้าหน้าที่มีจำนวนน้อยกว่าประชาชน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ใช้มาตรการละมุนละมอมตามกฎหมายในการดำเนินการ ไม่ได้ทำอะไรที่นอกกรอบ การตั้งจุดสกัดทั่วทั้งเมือง อาจจะทำให้การดูแลรักษาความปลอดภัยได้ 90% แต่ผมเชื่อว่าสังคมรับไม่ได้ ดังนั้นจะต้องไปร่วมมือกันว่าจะทำอย่างไรให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด เราทำได้เฉพาะเพียงอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่และนำประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมให้มากที่สุดเท่านั้น”
พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนด้านกัมพูชา กรณีเจ้าหน้าที่ทหารพรานชุดเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 26 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 เหยียบกับระเบิดใกล้กับฐานปฏิบัติการจารภาพประทุม ช่องคะนา อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ และใกล้หลักเขตแดนที่ 21 ชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นเหตุให้อาสาสมัครทหารพรานได้รับบาดเจ็บหลายรายว่า เมื่อมีการลาดตระเวนก็ต้องมีการเหยียบกับระเบิดหากไม่ระมัดระวัง เพราะทุกที่มีกับระเบิด ทั้งนี้เป็นหน้าที่ของกองทัพที่จะดูแลทหารที่ได้รับบาดเจ็บ และกำชับเจ้าหน้าที่ด้วยความห่วงใย ขอให้ใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ เพราะอยู่ในสถานการณ์ล่อแหลมและมีความเสี่ยง
ทั้งนี้ รู้สึกเห็นใจทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ เพราะเป็นทหารก็ต้องเสี่ยงแบบนี้ จะทำอย่างไรได้ อย่างไรก็ตาม ต้องมีการตรวจสอบว่าใครเป็นคนวางกับระเบิด แต่เราคงไม่ได้ไปวาง คงเป็นคนอื่นวาง ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการประท้วงประเทศเพื่อนบ้านไปแล้ว โดยได้ดำเนินการสั่งการไปยังแม่ทัพภาคที่ 2 ให้ดูแลกำลังพล