เลขาฯ สมช.เผยที่ประชุมจ่อต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินชายแดนใต้ พร้อมลดกำลังทหารบางจุด เล็งถกข้อเสนอวาดะห์ใช้ พ.ร.บ.มั่นคงแทน ยันยังไม่ลงนามบีอาร์เอ็นเพิ่ม ปัดสร้างภาพ อ้างทำตามนโยบาย มั่นใจทำตามมติประชาชน ไม่สนคำท้วงเซ็นกับพวกไร้อำนาจ บอกต้องคุยก่อนขยายผล
วันนี้ (4 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เปิดเผยก่อนเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินว่า จะมีการพิจารณาต่ออายุการประกาศใช้พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ พ.ศ. 2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ) ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยที่ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) จะเป็นผู้ประเมินสถานการณ์ให้ที่ประชุมพิจารณา คาดว่าจะทราบผลภายในวันนี้ ซึ่งการพิจารณาจะต้องคำนึงถึงเหตุการณ์และสถานการณ์ต่างๆ รวมไปถึงองค์ประกอบความพร้อมของหน่วยพลเรือน ตำรวจ และทหาร ที่จะต้องร่วมกันทำงาน หากมีพื้นที่ใดมีความพร้อมก็ต้องลดกำลังทหาร และให้ทางตำรวจและกระทรวงมหาดไทยต้องเข้าไปชดเชย เช่นเดียวกับข้อเสนอของทางกลุ่มวาดะห์ที่เสนอให้ประกาศใช้พระราชบัญญัติความมั่นคงในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 (พ.ร.บ.มั่นคงฯ) แทนการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ใน 6 อำเภอจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็จะมีการหยิบยกขึ้นมาหารือด้วย
ผู้สื่อข่าวถามถึงการนัดหมายกับผู้แทนของกลุ่มบีอาร์เอ็นในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า พล.ท.ภราดรกล่าวว่า คงยังไม่มีการลงนามใดๆ เพิ่มเติม แต่จะมีการเปิดหัวข้อในการตั้งกลุ่มพูดคุย กรอบระยะเวลา และกฎเกณฑ์ในการพูดคุยกันต่อไป ส่วนที่มองกันว่าเป็นเพียงการสร้างภาพนั้น ขอยืนยันว่าเป็นการทำตามแนวนโยบาย และทุกฝ่ายมีส่วนร่วมตกผลึกผลักดันให้เกิดเวทีพูดคุยครั้งนี้ ไม่ได้มาจากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเท่านั้น
“เรามีความมั่นใจ เพราะจะใช้การมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ทั้งภาคประชาชน ประชาสังคม วิชาการ และหน่วยความมั่นคง โดยจะดำเนินการตามมติของประชาชนเป็นหลัก” เลขาฯ สมช.ระบุ
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าแกนนำบีอาร์เอ็นที่ สมช.ไปลงนามด้วยนั้นเป็นกลุ่มอิทธิพลเก่าที่ไม่มีอำนาจสั่งการในปัจจุบัน พล.ท.ภราดรกล่าวว่า คงต้องเดินหน้าพูดคุยต่อไป เนื่องจากบีอาร์เอ็นเป็นองค์กรใหญ่ มีต้องกลุ่มผู้นำทางความคิด กองกำลัง และแนวร่วม โดยในช่วงแรกต้องทำการพูดคุยตั้งแต่ผู้นำทางความคิด ก่อนที่จะขยายผลต่อไปในส่วนต่างๆ ส่วนกลุ่มอื่นยังอยู่ในระหว่างการประสานงาน ซึ่งหากกระบวนการกับบีอาร์เอ็นเดินหน้าไปได้ ก็คงมีผู้ออกมาแสดงตัวมากขึ้น