“ยุทธพร” ชี้ “สุขุมพันธุ์” ชนะศึกผู้ว่าฯ เหตุยกประเด็น “เผาบ้านเผาเมือง-รองผู้ว่าฯ ตู่” กระตุกต่อมความกลัวของชาว กทม. ด้าน “ไชยันต์” ระบุคะแนน “พงศพัศ” มาก ส่งผลเลือกตั้ง ส.ส.กทม.สมัยหน้า ปชป.ลำบากมากขึ้น
วันนี้ (3 มี.ค.) นายยุทธพร อิสระชัย คณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวถึงผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ชนะว่า ปัจจัยเนื่องจาก ส.ก. และ ส.ข. ซึ่งเป็นฐานเสียงของประชาธิปัตย์กลับมาช่วยพรรค และเมื่อดูจากตัวเลขผู้มาใช้สิทธิร้อยละ 50 ดูแล้วคะแนนส่วนใหญ่เกิดจากคะแนนจัดตั้งของประชาธิปัตย์ นอกจากนี้ เมื่อดูแวดล้อมความขัดแย้งของเพื่อไทย ก็เป็นส่วนประกอบที่ทำให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เพราะเมื่อดูจากฐานเสียงในพื้นที่ของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่ก่อนหน้านี้มีกระแสความขัดแย้งกับ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย ก็พบว่าพื้นที่ฐานเสียงของคุณหญิงสุดารัตน์ก็ชนะพรรคประชาธิปัตย์ไม่มาก ขณะเดียวกัน ประชาธิปัตย์ดูแลท้องถิ่นมานานก็อาจจะมีความได้เปรียบพรรคเพื่อไทย นำมาซึ่งชัยชนะได้
“แต่กลยุทธ์ที่ประชาธิปัตย์ชนะได้จริงๆ คือ การปล่อยกระแสข่าวเรื่องการเผาบ้านเผาเมือง หรือการปล่อยข่าวเรื่องรองผู้ว่าฯ กทม.ของพรรคเพื่อไทย (นายจตุพร พรหมพันธุ์) ซึ่งเป็นการกระตุกต่อมความกลัวของชาว กทม.ให้กลับมาเลือก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ได้ นอกจากนี้ยังมีแก๊งค์ก่อโหวตที่เข้ามาช่วยหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้าย” นายยุทธพรกล่าว และว่า ส่วนการทำงานของผู้ว่าฯกทม.หลังจากนี้ก็เชื่อว่าจะเดินไปได้ เพราะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ออกมาให้สัญญาประชาคมแล้วว่าจะทำงานร่วมกันกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์อย่างไร้รอยต่อ ซึ่งตนก็เชื่อว่าเป็นเช่นนั้น
ขณะที่นายไชยันต์ ไชยพร อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า แม้ประชาธิปัตย์จะมีคะแนนจัดตั้งที่เหนือกว่าเพื่อไทย เชื่อว่าไม่น่าจะต่ำกว่า 9 แสนมาตั้งแต่แรกแล้ว ส่วนที่มากกว่านั้นถือว่าเป็นโบนัส แต่คะแนนที่ได้รับนั้นจะถูกบิดเบือนว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ชนะ เพราะใช้เหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองมาเป็นเงื่อนไขที่ไปปลุกความกลัวคนกรุงเทพฯ ขึ้นมา
ดังนั้น การทำงานหน้าที่ของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ก็จะขาดการยอมรับจากคนเสื้อแดง ซึ่งแตกต่างจากเหตุการณ์การชุมนุม ปี 2553 ที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ได้วางตัวเป็นกลางอย่างสม่ำเสมอ หลังจากนี้ตนไม่แน่ใจว่าพรรคเพื่อไทยจะนำประเด็นดังกล่าวไปขยายผลต่อไปอย่างไรหรือไม่ นอกจากนี้ คนกรุงเทพฯ อาจจะกลัวเรื่องการทำงานไร้รอยต่อของเพื่อไทย เพราะว่าเห็นการทำงานของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ที่เป็นอยู่ในขณะนี้ และไม่เกิดศรัทธาจะเลือก พล.ต.อ.พงศพัศ เพราะเกรงว่าจะไม่มีประสิทธิภาพอย่างเช่นการบริหารงานรัฐบาล
นายไชยันต์กล่าวต่อว่า ต้องติดตามดูต่อว่าคะแนนของ พล.ต.อ.พงศพัศ จะมีจำนวนมากหรือไม่ เพราะหากได้จำนวนที่มาก ย่อมส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้ง ส.ส.กทม.ในสมัยหน้า ซึ่ง ปชป.จะมีความยากลำบากขึ้น