มหาดไทยตื่น แถลงพบชื่อผีโผล่ วอนเช็กรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ปัดจับผิดพรรคอื่น

มหาดไทยแถลงข่าวผีเลือกตั้งโผล่ก่อนคืนหมาหอน “ชัจจ์” แนะคนกรุงเทพฯ รีบเช็กด่วนในเอกสารที่ส่งถึงบ้านหรือหน้าคูหาเลือกตั้ง “สุชาติ” อ้างไม่ได้เอ่ยว่าผีจะเป็นของพรรคใดพรรคหนึ่ง

วันนี้ (1 มี.ค.) ที่กระทรวงมหาดไทย มีการแถลงข่าวของ พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.มหาดไทยจากพรรคเพื่อไทย และนายสุชาติ ลายน้ำเงิน ผู้ช่วยเลขานุการ รมว.มหาดไทย กรณีได้รับร้องเรียนจากประชาชนมีรายชื่อที่ไม่รู้จักเข้ามาอยู่ในทะเบียนบ้าน โดยปรากฏอยู่ในทะเบียนเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.โดย พล.ต.ท.ชัจจ์ กล่าวว่า ทางกระทรวงมหาดไทยได้ทำการตรวจสอบแล้วพบว่าพอจะมีข้อมูล ดังนั้นขอให้ประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งได้ตรวจทะเบียนบ้านว่า มีใครแปลกปลอมหรือไม่โดยดูในใบแจ้งที่ส่งมาที่บ้านมีรายชื่อคนไม่รู้จักอยู่หรือไม่ รวมถึงดูรายชื่อหน้าหน่วยเลือกตั้งมีคนแปลกปลอมหรือคนที่ขาดหายไปหรือไม่ เพื่อเป็นการป้องกันเจ้าของบ้านอาจถูกกล่าวหาว่าสมรู้ร่วมคิด ทางเจ้าบ้านต้องเป็นคนสำรวจว่ามีคนแปลกปลอมหรือไม่และไปแจ้งตามเขตต่างๆ แต่หากเจ้าหน้าที่ไม่ดำเนินการเสียเองจะเข้าข่ายความผิดละเว้นการปฏิบัติ หน้าที่จากการที่ได้รับร้องเรียนคือทางเขตไม่ดำเนินการแก้ไขตามที่ชาวบ้านร้องขอมานั้น อาจเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือเกื้อหนุนให้กับผู้สมัครคนใดคนหนึ่งนั้น เรื่องนี้จะต้องไปตรวจสอบแน่นอน ซึ่งยังไม่ชัดเจนเป็นการทุจริตเลือกตั้งหรือไม่ แต่มีการผิดพลาดเกิดขึ้นแล้ว ก็จะสอบสวนหาข้อเท็จจริง ถ้ามีมูลความผิดก็ต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบกันต่อไป

ขณะที่ นายสุชาติ กล่าวว่า เราอยากเห็นความโปร่งใสในการเลือกตั้งครั้งนี้ เพราะมีประชาชน กทม.หลายเขตเข้ามาร้องเรียน เราก็ไมได้นิ่งนอนใจจึงได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือ และลงพื้นที่พบผอ.เขตที่มีปัญหา ทางเขตก็ให้คำตอบ ได้ให้ประชาชนมาแจ้งชื่อก่อนวันเลือกตั้ง 10 วัน แต่พอประชาชนไปขอให้ดำเนินการแก้ไข เจ้าหน้าที่ก็ไม่ทำให้ ทาง
พล.ต.ท.ชัจจ์ จึงได้กำชับให้สำนักทะเบียนดำเนินการให้โปร่งใส คนที่มาเลือกตั้ง ต้องเป็นคนจริง ไม่ใช่ผี เราก็ไม่ได้เอ่ยว่า ผีจะเป็นของพรรคใดพรรคหนึ่ง ทั้งนี้ ข้อมูลที่มีการแถลงข่าวดังกล่าว เกิดขึ้นในบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านเศรษฐกิจ แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กทม. พบว่ามีหนังสือของ กกต.เขตแจ้งให้ไปใช้สิทธิ์ และตรวจสอบพบว่ามีบุคคลอื่นมาอยู่ในบ้านเดียวกัน 6 คน และยังมีบ้านอีกหลังหนึ่งที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน มีชื่อค้างอยู่ในทะเบียนบ้าน 2 คน รวมถึงอีกจุดหนึ่งคือที่เขตหลักสี่พบว่ามีการสวมสิทธิ์