“ยะใส” ตอก “จูดี้” หนีดีเบต แบบ “แม้ว-ปู” เลี่ยงรับผิดชอบนโยบายขายฝัน

ผู้ประสานกลุ่มกรีน อัด “พงศพัศ” ดูถูก ปชช.เลี่ยงโชว์วิสัยทัศน์ชิงผู้ว่าฯ เย้ยให้ความสำคัญคนชักใยมากกว่า ตอก พท.วางคิวให้ ไร้อิสระถูกจูงอยู่ตลอด ชี้ใช้โฆษณาชวนเชื่อ แล้วเลี่ยงดีเบตแบบ 2 พี่น้องชินวัตร หวังปัดรับผิดชอบคำพูด

วันนี้ (22ก.พ.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน เผยถึงกรณีที่ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เบอร์ 9 ในนามพรรคเพื่อไทย ไม่ยอมเข้าร่วมเวทีดีเบต ที่มหาวิทยาลัยศรีปทุม และถัดมาในตอนเย็นก็เบี้ยวรายการประชันวิสัยทัศน์ทางช่อง 9 อีกรอบ ในตอนเย็นเมื่อวานนั้น ถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม นอกจากไม่ให้เกียรติผู้จัดงานแล้ว ยังเป็นการดูถูกประชาชนโดยตรง

นายสุริยะใส ระบุว่า การดีเบตเป็นวัฒนธรรมอันดีของการเลือกตั้ง ที่ผู้สมัครต้องพร้อมแสดงวัสัยทัศน์ความรู้ความสามารถและแสดงภาวะความเป็นผู้นำเหนือคู่แข่ง เพื่อให้ประชาชนได้เห็นและประกอบการตัดสินใจเลือกอย่างมีคุณภาพว่าใครควรไปใช้อำนาจแทนประชาชน และถ้าคนที่เสนอตัวมาเป็นผู้นำ มาเป็นตัวแทนประชาชน ไม่ให้ความร่วมมือหรือไม่ยอมเข้าร่วมเวทีดีเบต ก็เป็นตัวบ่งชี้คุณลักษณะของคนๆ นั้น ว่าไม่ให้ความสำคัญกับประชาชนที่อยู่เบื้องหน้าเท่ากับคนบางคนที่ชักใยอยู่ข้างหลัง

ขณะที่ พล.ต.อ.พงศพัศ อ้างว่าพรรคเป็นคนวางโปรแกรมและการตัดสินใจทั้งหมด ก็ยิ่งสะท้อนชัดเจนว่า พล.ต.อ.พงศพัศ ไม่เป็นตัวของตัวเอง ถูกชักจูงโดยคนอื่นตลอดเวลา ถ้าผู้ว่าฯ กทม.ถูกครอบงำจากผู้มีอำนาจเหนือพรรค ต่อไป กทม.ก็จะเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ขาดความเป็นอิสระ โดยเฉพาะอำนาจในการบริหารงาน บริหารงบประมาณปีละกว่า 7 หมื่นล้านบาท ก็จะถูกแทรกแซงจากคนๆ เดียวได้ตลอดเวลา

นายสุริยะใส เผยอีกว่า การหนีการดีเบตครั้งนี้ยิ่งตอกย้ำยุทธศาสตร์การเมืองแบบประชานิยมที่เน้นยุทธวิธีโฆษณาชวนเชื่อด้านเดียว ของ พ.ต.ท.ทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทั้ง 2 คนก็ไม่เคยขึ้นเวทีดีเบตแม้แต่ครั้งเดียว ทำให้ผู้นำแบบนี้ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรหากบริหารงานผิดพลาดหรือไม่สำเร็จตามที่โฆษณาไว้ เช่น จะแก้ปัญหาจราจร กทม.ให้ได้ภายใน 6 เดือน คนจนจะหายไปภายใน 5 ปี จะกระชากค่าครองชีพลง น้ำมันจะถูกลง วาทกรรมเหล่านี้ล้วนเป็นการเมืองแบบโฆษณาชวนเชื่อหลอกลวงไปวันๆ