เกาะกระแส
00 นาทีนี้ถ้าลองไปถามใครๆที่ติดตามสถานการณ์ในชายแดนใต้ รวมไปถึงคนที่พอมีปัญญาอยู่บ้างก็พอมองออกได้แล้วว่าทุกอย่างเริ่ม “เละตุ้มเป๊ะ” เข้าไปทุกที หลังจาก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รับงานมาจากนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เข้ามาคุมงานด้านยุทธศาสตร์ ก็จะไม่เละได้อย่างไรเอาง่ายๆไม่ต้องคิดอะไรให้ซับซ้อนเริ่มจากคนที่มอบหมายคือนายกฯยังเรียก “จังหวัดหาดใหญ่” เพียงแค่นี้มันก็พอรู้แล้วว่าระดับสติปัญญาเป็นแบบไหน ส่วนคนแรกก็มีชื่อเสียงในเรื่อง “แอ็กอาร์ต” โชว์ออฟไม่ต่างจากจิ๊กโก๋ปากซอย ซึ่งคนแบบนี้ตามตำราเขาบอกว่า “ขี้ขลาด” ถ้าเดี๋ยวๆกันแล้วไม่กล้า นอกจาก “สุนัขหมู่” เท่านั้น
00 การแต่งตั้ง “กลุ่มวาดะห์” เข้ามาเป็น “กุนซือ” เท่ากับว่าทุกอย่างขาดผึงจบเห่ทันที เพราะนั่นเท่ากับว่าเป็นการแก้ปัญหาเพื่อหวังผลทางการเมืองในสนามเลือกตั้งเท่านั้น ไม่ใช่ตั้งใจแต่ปัญหาในพื้นที่ และถ้ามองอีกมุมหนึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความ “บ่มิไก๊” ของ ร.ต.อ.เฉลิม ได้เป็นอย่างดี และแสดงให้เห็นว่า “ภายใน” แล้วเขาถูก “กันออกมานอกวง” ภาพภายนอกที่แสดงออกมาเหมือนกับเป็นกลไกหลักด้านความมั่นคง แต่ความจริงแล้วในระดับกอ.รมน.เขาไม่อาจเข้าไปยุ่มย่ามได้เลย และนี่แหละอาจเป็นคำตอบได้ว่าทำไมถึงไม่ยอมลงไปในพื้นที่สักที
00 มองเกมออกได้ไม่ยากสำหรับคำสั่งให้บรรดา “หัวโจก” เสื้อแดงให้กบดานเงียบเชียบให้หยุดให้ความเห็นหรือเคลื่อนไหว “เรียกแขก” ในช่วงเข้าด้ายเข้าเข็มโค้งสุดท้ายหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯที่ตามกระแสอ้างว่า “จูดี้” พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ มีลุ้น จะสังเกตเห็นว่าทั้ง จตุพร พรหมพันธุ์ และ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ต่างเงียบเสียงโดยพร้อมเพรียงกัน แม้แต่ออกช่วยหาเสียงก็ต้องระงับไปในช่วงสำคัญแบบนี้ ไม่งั้นเกิดคุณกรุงเทพฯเขานึกได้แล้วเค้นคอถาม “ไพร่เต้น” ว่า “จะรับผิดชอบเรื่องสั่งเผาอย่างไร” เดี๋ยวจะยุ่งนะซี
00 อย่างไรก็ดีที่น่าจับตาก็คือการเคลื่อนไหวในรูปแบบใหม่ ภายใต้คนเดินเกมใหม่ที่ชื่อ “เจริญ จรรย์โกมล” ดีกว่า หลังจากเจ้าตัวยอมรับว่าไปพบหารือกับ ทักษิณ ชินวัตร มาแล้วถึงดูใบ แม้จะอ้างว่าพบกันโดยบังเอิญก็ตาม อย่างน้อยก็คงไปซักซ้อมความเข้าใจถึงเรื่องจังหวะเวลาว่าจะเริ่มเดินเครื่องกันตอนไหน ซึ่งแน่นอนว่าทุกอย่างเตรียมพร้อมเคลื่อนขบวนกันเต็มพิกัดอีกรอบหลังเสร็จสิ้นเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. “ยึดเมืองหลวง” เสร็จเรียบร้อยแล้ว และทุกอย่างก็คงยังเป็นไปตามแผนนั่นคือให้ “คลุมเครือ” ไว้ก่อน เสนอเข้าไปก่อน แล้วค่อยไปแก้ไขในชั้นกรรมาธิการ แต่ต้องคงหลักการให้ “ตีความ” เป็นหลัก เพราะถ้าออกรูปนี้มันก็จะมี “ศรีธนญชัย” ตีความช่วยให้ “คนเหลี่ยมจัด” พร้อมลูกน้องได้พ้นผิดในคราวเดียวกัน หัวใจมันอยู่ตรงนี้ ส่วนพวก “แดงรากหญ้า” นั้นมันเป็นแค่น้ำจิ้มเครื่องเคียงเท่านั้น !!
00 นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่น่าจับตาก็คือจะมีการปรับครม.ขึ้นมาอีกรอบ นอกเหนือจากโควต้าชาติไทยฯของเสี่ย บรรหาร ศิลปอาชาแล้ว ยังมีของแถมจากพรรคเพื่อไทยด้วย โดยอาจมีบำเหน็จรางวัลสำหรับบางคนด้วย และงานนี้ให้จับตามอง “เสี่ยอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย ให้ดี อาจมีโอกาสเข้ามานั่งเก้าอี้ รมต.คนใหม่เร็วๆนี้ จบเห่ เอ้ยจบข่าว !!