ขรก.สภาฯ โวย “เจริญ” พาทัวร์อาเซียน ขนพวกนอกสังกัด เด็กใหม่ข้ามหัวไปเพียบ

“รังสิมา” เผยเจ้าหน้าที่สภาร้อง “เจริญ” จัดงบ 32 ล้านพาข้าราชการทัวร์นอก มีแต่พวกไม่เกี่ยวงาน ปิดกั้นระดับล่าง แฉเอกสารอนุมัติ 18 คณะเยือนอาเซียน ให้ 450 ข้าราชการดูงานช่วง ก.พ.-พ.ค. 56 ชี้หลักเกณฑ์ต้องเรียงตามอาวุโส สังกัดสำนักเลขาฯ สภา แต่พบมีรองเลขาฯ วิ่งรอกทัวร์ แถมพาพวกสังกัดวุฒิฯ ไปด้วย ซ้ำพวกเพิ่งบรรจุก็ได้ลัดคิวไป เจ้าตัวแจงเข้าใจผิด

วันนี้ (21 ก.พ.) ที่รัฐสภา น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ ได้หารือต่อที่ประชุมสภาฯ ถึงกรณีได้รับเรื่องร้องเรียนจากเจ้าหน้าที่รัฐสภาว่า นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาฯ ได้จัดงบประมาณแผ่นดินถึง 32 ล้านบาท เพื่อให้เจ้าหน้าที่สภาไปดูงานต่างประเทศ โดยเจ้าหน้าที่ระดับล่างหลายคนต่างร้องเรียนว่ามีเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่ใกล้เกษียณ และบางฝ่ายที่ไม่เกี่ยวข้องซึ่งเคยไปต่างประเทศมาแล้วหลายครั้งก็ยังจะไปอีก ปิดกั้นโอกาสของเจ้าหน้าที่ระดับล่างซึ่งเป็นฝ่ายปฏิบัติทำงานมาทั้งปีไม่มีโอกาสมาเปิดหูเปิดตา ทั้งนี้ น่าสังเกตว่ามีการจัดงบประมาณมากเช่นนี้โดยแอบตกลงโดยไม่มีการแจ้งให้สมาชิกรับทราบหรือไม่ และหากไม่มีการร้องเรียนก็คงไม่มีใครทราบ

ทั้งนี้ มีรายงานถึงเอกสารด่วนที่สุด ของรองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เลขรับ 123/56 ลงวันที่ 13 ก.พ. 56 เรื่องแจ้งรายละเอียดเข้าร่วมโครงการเยือนและสร้างความสัมพันธ์ระหว่างรัฐสภาในกลุ่มอาเซียน โดยมีรายละเอียดระบุว่า ตามที่เลขาสภาฯ ได้อนุมัติให้สำนักพัฒนาบุคลากร สำนักเลขาธิการสภาฯ ได้จัดโครงการเยือนและสร้างความสัมพันธ์รัฐสภาในกลุ่มอาเซียนร่วม 18 คณะ จำนวนข้าราชการทั้งสิ้น 450 คน งบประมาณรายการค่าใช่จ่ายในการสนับสนุนภารกิจของ ส.ส.ในการส่งเสริมข้าราชการสภาฯ ดูงานครั้งนี้จำนวน 32 ล้านบาท ในกลุ่มประเทศอาเซียนทั้ง 9 ประเทศ ในระหว่างช่วงเดือน ก.พ.-พ.ค. 56

ทั้งนี้ กลุ่มที่ 1 มีจำนวน 25 คน เดินทางวันที่ 5-8 มี.ค. สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว คณะที่ 2 จำนวน 25 คน ระหว่างวันที่ 10-13 มี.ค. ราชอาณาจักรกัมพูชา คณะที่ 3 จำนวน 25 คน ระหว่างวันที่ 16-19 มี.ค.ไปสาธารณสังคมนิยมเวียดนาม คณะที่ 4 จำนวน 25 คน วันที่ 6-9 มี.ค.ไปประเทศมาเลเซีย คณะที่ 5 จำนวน 25 คน เดินทางไป 28 ก.พ.-3 มี.ค. ประเทศสิงคโปร์

คณะที่ 6 จำนวน 25 คน วันที่ 23-26 ก.พ. สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ คณะที่ 7 จำนวน 25 คน ระหว่างที่ 4-7 มี.ค. สาธารณรัฐอินโดนีเซีย คณะที่ 8 จำนวน 25 คน ระหว่างวันที่ 24-27 มี.ค. สหภาพพม่า คณะที่ 9 จำนวน 25 คน ระหว่างวันที่ 9-12 มี.ค. ประเทศบรูไน คณะที่ 10 จำนวน 26 คนระหว่างวันที่ 21-/24 เม.ย. สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

คณะที่ 11 จำนวน 26 คน ระหว่างวันที่ 7-10 เม.ย. ราชอาณาจักรกัมพูชา คณะที่ 12 จำนวน 26 คน ระหว่างวันที่ 28 เม.ย.-พ.ค. 56 สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม คณะที่ 13 จำนวน 26 คน ระหว่างวันที่วันที่ 28 เม.ย.-พ.ค. 56 ประเทศมาเลเซีย คณะที่ 14 จำนวน 26 คนระหว่างวันที่ 7-10 เม.ย. ประเทศสิงคโปร์ คณะที่ 15 จำนวน 26 คน ระหว่างวันที่ 10-13 มี.ค. สาธารณรัฐฟิลิปปินส์

คณะที่ 16 จำนวน 26 คน ระหว่างวันที่ 24-27 มี.ค. สาธารณรัฐอินโดนีเซีย คณะที่ 17 จำนวน 26คน ระหว่างวันที่ 21-24 พ.ค. สหภาพพม่า และคณะที่ 18 จำนวน 26 คนระหว่างวันที่ 8-11 พ.ค.ประเทศบรูไน

สำหรับหลักเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติของข้าราชการของสำนักเลขาธิการสภาฯ ที่จะไปดูงาน โดยให้รองเลขาธิการสภาฯ เป็นหัวหน้าคณะเดินทาง และเป็นผู้เสนอรายชื่อข้าราชการซึ่งต้องสังกัดสำนักเลขาธิการสภาฯ เท่านั้น โดยเรียงลำดับความอาวุโส แต่ข้อเท็จจริงกลับพบว่ามีรองเลขาธิการบุคคลเดียวได้วิ่งรอกไปหลายประเทศ และยังมีข้าราชการจากสำนักเลขาธิการวุฒิสภาไปด้วย ซึ่งผิดหลักเกณฑ์ของโครงการนี้ นอกจากนี้ยังพบว่า มีข้าราชการบรรจุใหม่สามารถลัดคิวไปร่วมคณะได้ด้วย เรื่องดังกล่าวได้สร้างความไม่พอใจแก่ข้าราชการที่ถูกข้ามหัว สำหรับ โครงการดังกล่าวนี้ถือเป็นนโยบายของนายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาฯคนที่ 1โดยมอบเรื่องผ่านสำนักพัฒนาบุคลากรเป็นผู้ดำเนินการ

ต่อมานายเจริญได้ให้สัมภาษณ์ระบุว่า เรื่องดังกล่าวอาจเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนเพราะโครงการที่สภาฯ จัดขึ้นเป็นการมอบงานให้ระดับรองเลขาธิการสภาฯ ระดับซี 10 เป็นประธาน ทำการคัดเลือก ทีมงานระดับหัวกะทิซึ่งเป็นข้าราชการสภาฯ โดยแบ่งเป็น 4 กลุ่มกระจาย กลุ่มละประมาณ 10 คน ไปทำงานล่วงหน้าใน 9 ประเทศของกลุ่มอาเซียน โดยใช้งบประมาณ 32 ล้านบาท ในเรื่องการทำงานด้านวัฒนธรรม ประเพณี ศาสนา และกฎหมาย ที่มีขัดกันในเรื่องการค้า เพื่อเตรียมการล่วงหน้าต้อนรับประชาคมอาเซียน โดยใช้เวลาดำเนินการตลอดทั้งปี 56 ทั้งนี้จะมีการเชิญสื่อมวลชนประจำรัฐสภาไปเผยแพร่การทำงานด้วย