“ยิ่งลักษณ์” พบมิสเวิลด์ 2012 ชาวจีนระหว่างท่องเที่ยวเมืองไทย พร้อมร้องเพลง Zu ying ให้นายกฯ ฟัง ก่อนเป็นสักขีพยานลงนามกองทุนหมู่บ้านและชุมชน หว่านเงินอีก 15,027 ล้าน สร้างรายได้ประชาชน อ้อนวันวาเลนไทน์อยากเห็นคนไทยเป็นสุข
ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในการลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ว่าช่วงเที่ยง นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ในฐานะประธานที่ปรึกษาต้อนรับคณะผู้บริหารมิสเวิลด์ ได้นำ น.ส. เหวิน เซียะ หยู Miss World 2012 และคณะผู้บริหารเข้าเยี่ยมคารวะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่เรือนรับรองสวนสัตว์เชียงใหม่ เนื่องในโอกาสที่เดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย ทั้งนี้ Miss World 2012 ถือโอกาสร้องเพลง Zu ying เป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรีด้วย
จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์พร้อมคณะเดินทางมารับประทานอาหารกลางวัน “ก๋วยเตี๋ยวปลา” ย่านอำเภอเมือง ก่อนพาคณะสื่อมวลชนแวะเยี่ยมชมคุ้มเสือ อ.แม่ริม เพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวของ จ.เชียงใหม่ โดยนายกรัฐมนตรีได้เข้าไปยังห้องอนุบาลเสืออายุ 3-4 เดือน เพื่อเล่นกับลูกเสือ พร้อมกับถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ก่อนเดินไปเยี่ยมชมเสือใหญ่
จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์เดินทางไปยังหอประชุมทีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ วิทยาเขตสลวง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความร่วมมือ ระหว่างสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ กับสถาบันกาารเงิน
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ในโอกาศวันวาเลนไทน์ ขอเป็นตัวแทนคณะรัฐมนตรีส่งความรักความปราถนาดีไปสู่ประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ไม่มีอะไรสุขเท่าเห็นประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี มีความเข้มเข็ง มีอาชีพที่มั่นคงเลี้ยงครอบครัวได้ตลอดไป ที่ผ่านมาเคยโอนเงินกองทุนให้กับหมู่บ้านไปแล้วหลายชุมชนก็ประสบความสำเร็จ นี่คือวัตถุประสงค์ของรัฐบาลที่อยากให้ประชาชนได้ตัดสินใจในการใช้เงินกองทุนหมุนเวียนสร้างความเจริญให้ชมชุน และขอขอบคุณสถาบันการเงินที่เข้ามาเปิดปฏิบัติการสถาบันการเงินชุมชนเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อเป็นโอกาสสร้างความเข้มเข็งให้ชุมชน วันนี้มีจำนวนกองทุนเพิ่มมากขึ้น ครั้งนี้จะโอนอีก 15,027 กองทุน ให้กับชุมชนและหมู่บ้าน ซึ่งต้องการให้เงินถึงมือประชาชนโดยเร็วให้สมาชิกใช้สิทธิ์กู้ยืมขยายโอกาสสร้างงานสร้างอาชีพชมชุนให้แข็มเข็ง
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าเป้าหมายของรัฐบาลอยากเพิ่มเติมกองทุนที่ประสบความสำเร็จ และเข้มแข็ง ยกระดับให้เป็นสถาบันการเงินของชุมชน อย่างน้อยกองทุนละ 1 หรือ ตำบลละ 1 แห่ง โดยตั้งเป้าไว้ 10,000 แห่งทั่วประเทศ