รมว.ศธ.ปัดเยียวยาโจรใต้ แค่ช่วยเหลือ ชี้ ร.ร.ปิดแต่ชดเชยครบ ให้ ปชช.คิดเองปมเคอร์ฟิว

“พงศ์เทพ” รับทุกฝ่ายระวังหลังโจรใต้บุกค่ายนาวิกฯ ชี้เป็นสิทธิ ร.ร.ปิดเพื่อความปลอดภัย ยันสอนชดเชยครบหลักสูตร อ้างช่วยเหลือครอบครัวโจรใต้ตามมนุษยธรรม ไม่ถึงขั้นเยียวยาแบบพวกเผาเมือง โยนคนพื้นที่พิจารณาเรื่องเคอร์ฟิว รับคงไม่ใช้มากมาย

วันนี้ (14 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีที่สมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แสดงความกังวลเรื่องปลอดภัยภายหลังเกิดเหตุการณ์คนร้ายแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ทหารพร้อมอาวุธครบมือเข้าโจมตีฐาน หมวดปืนเล็กที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 32 อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ว่าเมื่อมีสถานการณ์เกิดขึ้นทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องเตรียมตัวและระมัดระวังมากขึ้น เพราะต้องกังวลว่าอาจจะมีอะไรตามมาเหมือนในอดีต โดยในส่วนของครู กระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานด้านความมั่นคงจึงต้องมีการเตรียมการอย่างที่เคยมีการทำกันมา

ขณะที่การปิดโรงเรียนนั้น หากบางพื้นที่คิดว่ามีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการก็ต้องให้เป็นอำนาจตัดสินใจของแต่ละพื้นที่ เพราะต้องดูเรื่องความปลอดภัยด้วย เช่นเดียวกับการขอกำลังเจ้าหน้าที่ไปอารักขาก็ขึ้นอยู่กับแต่ละโรงเรียนว่ามีความจำเป็นแค่ไหน เพราะแต่ละโรงเรียนมีพื้นที่ที่ตั้งแตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม เท่าที่ตนได้เคยพบกับครูในจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็พยายามจะเปิดการเรียนการสอนตามปกติให้ได้มากที่สุด และเมื่อไหร่ก็ตามที่มีการปิดโรงเรียนก็มีการสอนชดเชยให้เด็กให้เรียนได้ครบตามหลักสูตร

นายพงศ์เทพกล่าวว่า สำหรับแนวคิดที่รัฐบาลจะเยียวยาครอบครัวของผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ ต้องเรียนว่าในเรื่องของการช่วยเหลือมนุษยธรรมเรามีกลไกกติกาอยู่ แต่คำว่าเยียวยา ความหมายคนอาจจะเข้าใจแตกต่างกัน ซึ่งในการช่วยเหลือครอบครัวผู้ที่เสียชีวิตก็เพื่อจะทำให้ความรู้สึกดีขึ้น และที่ผ่านมาก็เคยทำ แต่ไม่ได้หมายความว่าการเยียวยานี้จะไปชดเชยในแบบเดียวกับผู้ที่ไม่ได้ทำ ความผิด ส่วนที่มีความกังวลกันว่าอาจจะทำให้โจรเพิ่มมากขึ้นนั้น ในการที่ไปช่วยครอบครัวของเขาไม่ได้หมายความว่าช่วยผู้กระทำความผิด การเยียวยาไม่จำเป็นจะต้องเป็นในรูปแบบของเงินเยียวยาอย่างเดียว แต่มีวิธีการในการเยียวยาหลายรูปแบบ โดยเรื่องนี้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จะเป็นผู้พิจารณา ซึ่งไม่ใช่การเยียวยาแต่เป็นการช่วยเหลือ ทั้งนี้ สมมติว่าผู้ที่กระทำความผิดเป็นคนหาเลี้ยงครอบครัว แล้วปรากฏว่าครอบมีลูกเล็ก 2 คน และมีแม่ซึ่งอายุมากทำมาหากินไม่ได้ กรณีก็ต้องไปดูแลครอบครัวของเขาให้อยู่ได้ เพราะแม่หรือลูกไม่ได้กระทำความผิด โดยปกติถึงแม้ว่าบุคคลนั้นไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิด แต่ครอบครัวที่มีคนชราและป่วยรัฐก็ดูแลอยู่แล้ว ถือเป็นการช่วยตามหลักมนุษยธรรม

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีการเยียวยาจะเทียบเคียงกับการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไม่สงบทางการเมืองหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า แตกต่างกัน เพราะกรณีที่เกิดขึ้นคงเทียบเคียงกันไม่ได้ เมื่อถามว่าการเยียวยาจะสวนทางกับความรู้สึกของคนในสังคมหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ทำความเข้าใจกับสังคมได้ เพราะคนที่อยู่ไม่ได้กระทำความผิด และหากเขาเดือดร้อนรัฐดูแลทุกคนอยู่แล้ว

เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ออกมาคัดค้านการประกาศเคอร์ฟิว รองนายกฯ กล่าวว่า การจะประกาศเคอร์ฟิวหรือไม่ ที่ผ่านมามีข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ ซึ่งในข้อเท็จจริงหากประกาศคงไม่ประกาศในวงกว้างอยู่แล้ว เรื่องนี้คงต้องปล่อยให้พื้นที่เป็นคนพิจารณาก่อนว่าตรงไหนและเวลาไหนมีความจำเป็น แน่นอนเราฟังความเห็นจากทุกฝ่ายเพราะเรื่องนี้มีความละเอียดอ่อน เมื่อถามว่า ทาง ศอ.บต.ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นประชาชนในพื้นที่พบว่าตัวแทนมุสลิมไม่ต้องการการประกาศเคอร์ฟิว รองนายกฯ กล่าวว่า หากถามว่ามีเคอร์ฟิวทั่วไปหมดตลอดทุกวันตนก็เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย แล้วไม่มีใครคิดจะไปประกาศเคอร์ฟิวมากมายขนาดนั้นแน่นอน แต่กรณีที่มีความจำเป็นจะต้องประกาศเคอร์ฟิวเฉพาะบางพื้นที่ บางเวลา และสั้นๆ อย่างกรณีที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 ก.พ.ก็คิดว่าคนจะเข้าใจได้ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้คงต้องให้คนในพื้นที่เป็นคนพิจารณา