“เฉลิม” รับมีข่าวอัลกออิดะห์เล็งถล่มกงสุลมะกันประจำเชียงใหม่

“เฉลิม” ยอมรับมีรายงานอัลกออิดะห์เล็งถล่มสถานกงสุลสหรัฐฯ ประจำเชียงใหม่ กำชับ ผบช.ภ.5 ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด หากเกิดเหตุประเทศไทยสะเทือนแน่ ยันไม่กระทบ “นายกฯ ปู” เดินทางไปเชียงใหม่พรุ่งนี้ อีกด้านหลังออกจากทำเนียบ โวรู้ข่าวหลายวันแล้ว อ้างเกี่ยวพันการฝึกคอบร้าโกล

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ยอมรับว่าได้รับรายงานเรื่องกลุ่มอัลกออิดะห์ และกลุ่มซาลาฟิสต์ ซึ่งถูกระบุว่าเป็นกลุ่มมุสลิมติดอาวุธที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในแอลจีเรีย มีแผนถล่มสถานกงสุลสหรัฐอเมริกาประจำจังหวัดเชียงใหม่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้ ซึ่งเป็นช่วงที่มีการฝึกผสมคอบร้าโกลด์ ที่มีเจ้าหน้าที่จากหลายประเทศ รวมทั้งจากสหรัฐฯ เข้าร่วมด้วยว่า เรื่องนี้ตนทราบจากสายข่าวและสั่งการด้วยวาจาให้ พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผบช.ภ.5 ไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาให้เฝ้าระวัง โดยกำชับให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดเหตุใดๆ ขึ้น และจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยมีหน่วยงานข่าวรายงานให้ตนทราบมาบ้างแล้ว ซึ่งข่าวที่ตนได้รับอยู่ในขั้นให้ระมัดระวัง ดังนั้นถ้าเราป้องกันได้ก็จะดี เพราะหากเกิดเหตุอะไรขึ้นก็จะสะเทือนถึงไทยได้ ทั้งนี้ ในส่วนของกำลังเจ้าหน้าที่ที่จะดูแลความปลอดภัย ถือเป็นความลับ

ส่วนแหล่งข่าวที่ออกมาระบุเรื่องนี้เชื่อถือได้หรือไม่นั้น ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ถึงเชื่อถือไม่ได้ก็ต้องระวัง เพราะกันไว้ดีกว่าแก้ เมื่อถามว่าความเคลื่อนไหวของกลุ่มที่ออกมาอ้างตัวจะเชื่อได้หรือไม่ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จะเชื่อได้หรือไม่ก็ต้องระวัง เมื่อถามย้ำว่าแหล่งข่าวจากต่างประเทศเชื่อถือได้หรือไม่นั้น ร.ต.อเฉลิมกล่าวว่า ตนไม่ได้รับรายงานข่าวจากต่างประเทศ แต่รับรายงานข่าวจากในประเทศว่าเรื่องนี้มีข่าวมานานแล้ว และจากการข่าวระบุว่าถ้ามีเหตุอะไรขึ้นก็ผลกระทบต่อประเทศแน่นอน

ต่อข้อถามว่า กระแสข่าวที่ออกมาช่วงนี้เกี่ยวโยงกับการฝึกร่วมคอบร้าโกลด์ที่ จ.เชียงใหม่ หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ขออนุญาตไม่ตอบ เพราะคนที่เคยเป็นสายข่าวมาแล้วต้องตอบอย่างตน ถ้าไม่ตอบอย่างนี้แปลว่าไม่รักษาชั้นความลับ เมื่อถามว่าจะต้องตรึงกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อดูแลสถานการณ์นานเท่าใด ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า จนกว่าจะฝึกคอบร้าโกล์แล้วเสร็จ

ผู้สื่อข่าวถามว่า สถานกงสุลทราบข่าวหรือดูแลตัวเองอย่างไร รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เขาก็รู้ ต่อข้อถามว่าเกรงว่าจะเกิดเหตุคล้ายกับการก่อการสังหารทูตภายในสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงเบงกาซี ประเทศลิเบีย หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ตำรวจต้องป้องกัน ส่วนใครจะตกใจหลังจากมีข่าวว่าเราป้องกันเป็นอีกส่วนหนึ่ง แต่จะปล่อยให้เกิดเหตุไม่ได้

ส่วนการเตือนลักษณะนี้จะส่งผลกระทบต่อการเดินทางปฏิบัติภารกิจของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 13 ก.พ.ที่ จ.เชียงราย หรือไม่นั้น ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน

ต่อมาเวลา 14.40 น. ร.ต.อ.เฉลิม ให้สัมภาษณ์อีกครั้งถึงกรณีที่มีรายงานข่าวแจ้งว่ากลุ่มอัลกออิดะห์และกลุ่มซาลาฟิสต์ มีแผนที่จะถล่มสถานกงสุลสหรัฐอเมริกาประจำจังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงต้นเดือนก.พ. ว่า เรื่องที่อัลกออิดะห์วางแผนก่อเหตุนั้น ได้รับรายงานมาหลายวันแล้ว และได้แจ้งไปยังพล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผบช.ภ. 5 ซึ่งทางผบช.ภ. 5 ได้จัดกำลังและติดตามดูแลสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเมื่อสักครู่ก็ยังได้รับรายงานว่าสถานการณ์ปกติ และได้ชี้แจงกับเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ แล้ว ตนขอยืนยันว่ากลุ่มนี้ไม่เกี่ยวกับสถานการณ์ในภาคใต้ ผู้ก่อเหตุเป็นเรื่องเฉพาะส่วนที่เขาคิดจะมาก่อเหตุรุนแรง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้มีการเตรียมการไว้แล้ว และตนได้รับรายงานเพิ่มเติมว่าบางส่วนได้หลบออกไปนอกประเทศแล้ว แต่ยังเหลือบางส่วน เมื่อถามว่าจำนวนที่เหลืออยู่เยอะหรือไม่ รองนายกฯตอบว่า เหลืออยู่แบบไม่สามารถก่อเหตุได้

เมื่อถามว่าเหตุการณ์นี้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครบรอบ 1 ปี วันวาเลนไทน์ ที่ทำระเบิดหล่นที่ จ.ภูเก็ต หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า คนละส่วนกัน กรณีนี้น่าจะเกี่ยวกับการฝึกคอปบร้าโกล แต่ไม่เกี่ยวกับสถานการณ์ภาคใต้ เมื่อถามว่าตลอดเวลาที่มีการฝึกคอปบร้าโกล์จำเป็นต้องดูแลสถานทูตสหรัฐฯเป็นอย่างดีใช่หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า โดยทั่วไปเราดูทุกสถานทูต แต่กรณีที่มีเหตุบ่งชี้ว่าที่ไหนอันตราย เราก็จะเน้นที่นั้นเป็นพิเศษ เมื่อถามว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นในขณะที่นายกฯจะเดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่เชียงใหม่พอดี ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ไม่เกี่ยวกันหรอก นายกฯเป็นคนเชียงใหม่ ใครมาคิดร้ายไม่ได้หรอก เมื่อถามว่าต้องระมัดระวังเป็นพิเศษหรือไม่ รองนายกฯกล่าวว่า ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ซึ่งตนประสานอยู่ตลอดเวลา

เมื่อถามว่า ถ้าเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่เชื่อมโยงกับผู้ก่อความไม่สงบภาคใต้ แล้วเป็นกลุ่มใด ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เป็นกลุ่มนอกประเทศ สมาคมข่าวร่วมเขารู้ เขามีการบูรณาการการข่าว และก็เห็นว่าตนเข้าใจข่าว มีอะไรก็จะบอกมาก่อน เรื่องนี้ตนไม่เคยบอกนักข่าวเลยนะ ต้องถือว่านักข่าวเก่งที่เอาเรื่องนี้มาถาม เมื่อถามว่าการกระทำของกลุ่มนี้หวังผลมุ่งไปที่สหรัฐฯใช่หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า นั่นก็ส่วนหนึ่ง แต่เราเดือดร้อนที่สุด เพราะกงสุลสหรัฐฯตั้งอยู่ในประเทศไทย ถือว่าเราเสียเหลี่ยม ถ้าเกิดเหตุขึ้น เราแย่เลย

ต่อข้อถามว่ากลุ่มที่หลบหนีออกนอกประเทศไทยไปทางไหน ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า บางครั้งเราไม่รู้ใครเป็นอัลกออิดะห์บ้าง แต่จากรายงานข่าวล่าสุดบอกว่าส่วนหนึ่งหลบออกไปแล้ว ส่วนที่จะก่อเหตุก็ยากเพราะเจ้าหน้าที่พร้อม ชัดเจน ย้ำอีกครั้งกลุ่มนี้ไม่เกี่ยวสถานการณ์ภาคใต้ เมื่อถามว่าตำรวจภาค 5 รับมือได้ใช่หรือไม่ รองนายกฯตอบว่า ได้ ผู้บัญชาการเขาเก่ง คืออะไรที่เรารู้ก่อนได้เปรียบ การทำงานสำคัญที่สุดคือการข่าว ถ้าการข่าวเราดีเราได้รับชัยชนะไปแล้ว 50% เมื่อถามว่านายกฯเป็นห่วงเรื่องนี้หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า เป็นห่วงและมีการกำชับ แต่ว่าท่านนายกฯเมื่อแนะนำแล้วตัวท่านไม่ค่อยออกข่าว ตนยืนยันกับผู้บัญชาการตำรวจภาค 5 แล้ว เมื่อเรารู้ข้อเท็จจริงอย่างนี้ เป้าหมายอย่างนี้ เหตุเกิดไม่ได้ ต้องระมัดระวัง

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีโอกาสที่จะจับแนวร่วมที่เหลืออยู่ได้หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า เขายังไม่ก่อเหตุ อาจจะมาแบบนักท่องเที่ยวแต่เรารู้ทางลึก เมื่อถามว่าทางกงสุลเขาติดต่อมาอย่างไรบ้าง รองนายกฯกล่าวว่า เขาติดต่อกับผบช.ภ.5 เชิญเขามาหมดแล้ว เรียบร้อย ต้องดูแลเป็นพิเศษ ชนิดว่าให้เหตุเกิดไม่ได้ ถ้าเกิดเราก็เดือดร้อน เพราะประเทศของเรา

เมื่อถามว่าต้องดูแลเข้มทั้งสถานกงสุลและที่นายกฯจะเดินทางไปด้วย ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า นายกฯไปไม่ต้องเข้ม เพราะใครๆ ก็รักท่าน เป้าหมายเขาคือกงสุล ต้องเข้มกงสุลกับเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯประจำกงสุล และหรือเจ้าหน้าที่อื่นๆของสหรัฐฯที่อยู่ในจ.เชียงใหม่ในขณะนี้ เมื่อถามว่าจะคงความเข้มข้นแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน ร.ต.อ.เฉลิมตอบว่า ต้องดูไปแบบวันต่อวัน เมื่อถามว่าสถานการณ์จะบานปลายมาถึงกรุงเทพฯหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมตอบว่า ไม่มี มาไม่ได้หรอก ตนไม่ได้รอรับรายงานอย่างเดียว ต้องชมว่านักข่าวเก่ง เพราะเรื่องนี้ตนไม่ได้แพร่งพรายเลย กลัวตกอกตกใจ แต่เมื่อมาถามตนมีหน้าที่ตอบ

นอกจากนี้ ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวถึงความผิดปกติโครงการก่อสร้างโรงพักทดแทนว่า เรื่องนี้หากพรรคประชาธิปัตย์ยื่นกระทู้สดในวันที่ 14 ก.พ. ตนจะขอให้พรรคเพื่อไทยยื่นเป็นญัตติด่วนหลังกระทู้ เพราะถ้าเป็นกระทู้เดี๋ยวพูดกันไม่ละเอียด ประชาชนจะไม่เข้าใจ มันจะได้ชัดเจน ถ้าเรื่องนี้ชัดเจนเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.มันก็รู้เลย พล.ต.อ.พงศพัศเขาเป็นประธานพิจารณาคราวแรก คราวที่เสนอขออนุมัติกระจาย 9 ภาค แต่ต่อมาเปลี่ยนเป็นรายเดียวเขาไม่เกี่ยวข้องด้วย ตนมีเอกสาร ตนไม่ได้ช่วยพล.ต.อ.พงศพัศ แต่จะแสดงให้เห็นว่าใครควรรับผิดชอบ ถ้าพล.ต.อ.พงศพัศ ผิดตนจะช่วยอย่างไร เรื่องเอกสารไม่มีใครช่วยใครได้ เรื่องนี้มีคนติดคุก แรกๆ ไม่อยากพูดมาก แต่เมื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์มาบอกให้ตนช่วยชี้แจง ก็ฉลองศรัทธา ถ้านายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทยมาร่วมด้วยก็เชิญเลย ยูอาร์เวลคัม