โฆษก ปชป.จี้ “ปู” ปลด “ปึ้ง” พ้นเก้าอี้บัวแก้ว ฐานทำตัวเป็นโฆษกเขมร นำเอกสารที่ยังไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริงของชาติอื่นมาโจมตีฝ่ายค้านในประเทศ ชี้เป็นความตกต่ำของ รมว.ต่างประเทศในประวัติศาสตร์โลก ระบุการปล่อยกัมพูชาจัดประชุมมรดกโลกเพียงประเทศเดียวซูเอี๋ยชัด เปิดหลักฐาน “นช.แม้ว” กระสันทำธุรกิจน้ำมันในเขมรจริง พร้อมแฉ MOU 44 เขมรหวังยึดเกาะกูด ฮุบน้ำมันดิบในอ่าวไทย รัฐบาล ปชป.จำเป็นต้องยกเลิก
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่าไม่อยากให้มีการนำประเด็นประสาทพระวิหารมาตอบโต้ทางการเมืองว่า พรรคประชาธิปัตย์เห็นด้วยว่าถูกต้อง แต่หากนายกฯ มีเจตนารมณ์อย่างที่พูดจริง ท่านต้องไปตักเตือนให้นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศ เพราะการที่ รมว.ต่างประเทศนำเอกสารที่ไม่สามารถตรวจสอบความถูกต้องของข้อเท็จจริงในเอกสาร อีกทั้งยังนำเงินภาษีของประชาชนไปแปลเป็นภาษาไทย โดยนำมาโจมตีพรรคการเมืองฝ่ายค้านในประเทศ ซึ่งเห็นว่าไม่มี รมว.ต่างประเทศของประเทศใดนำเอกสารของชาติอื่นมาโจมตีประเทศตัวเอง นี่คือความตกต่ำของ รมว.ต่างประเทศในประวัติศาสตร์โลก และสะท้อนจุดตกต่ำของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ตนจึงเรียกร้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ว่าถ้าอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในเรื่องการบริหารจัดการปัญหาระหว่างประเทศจริง ท่านต้องทำให้พวกเราเห็นสักครั้งว่าจะแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้โดยเอาประเทศชาติเป็นที่ตั้งโดยเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีต่างประเทศออก หากท่านสามารถทำได้พวกเราก็จะไว้ใจเชื่อใจการทำงานของท่านได้มากขึ้น
นอกจากนี้ วานนี้ (24 ม.ค.) ที่นายกฯ ระบุทำนองว่าหากมีหลักฐานอะไรขอให้แสดงออกมา อย่ากล่าวโทษลอยๆ ตนเห็นด้วยอย่างยิ่งกับสิ่งที่นายกฯ ออกมาพูด จึงมีหลักฐานที่เราไม่สบายใจ คือ 1. ตนถามหลายครั้งแล้วว่าทำไมรัฐบาลนี้จึงปล่อยให้ประเทศกัมพูชาได้สิทธิในการจัดประชุมมรดกโลก แต่เพียงฝ่ายเดียวทั้งๆ ที่รัฐบาลก่อน มีการแข่งขันเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการประชุมทุกครั้ง นอกจากไม่เสนอตัวแล้วยังถือวิสาสะเลือกที่จะไปเป็นรองประธานการการจัดประชุมมรดกโลกให้กัมพูชาอีก นี่คือหลักฐานชุดที่ 1 ที่ชัดว่ารัฐบาลนี้ซูเอี๊ยกับกัมพูชา
2. โฆษกหน่วยข่าวและตอบโต้เร็ว สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาระบุว่าไทยเป็นฝ่ายรุกรานกัมพูชา และเป็นฝ่ายใช้กำลังเข้าทำลายล้าง จึงทำให้กัมพูชาต้องไปขอพึ่งอำนาจจากศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก แต่นายสุรพงษ์กลับตอบกระทู้ถามสดในสภาของนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา ว่าจะไม่ประท้วงคำพูดนี้เพราะถือเป็นการพูดของเขาในประเทศ ซึ่งตนเห็นว่าการที่ปล่อยให้เขาพูดออกไปโดยเราไม่มีหลักฐานการประท้วงอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลไทย เชื่อว่าศาลโลก เวทีระหว่างประเทศหรือนานาชาตินั้นจะคล้อยตามและเชื่อในสิ่งที่กัมพูชาพูดเพราะเราไม่เถียง
3. ที่นายกรัฐมนตรีระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนทางทะเลกับกัมพูชานั้น แต่จากบทสัมภาษณ์ของ พล.อ.เตีย บัญ รมว.ต่างประเทศ กัมพูชา ระบุชัดเมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2551 ในช่วงรัฐบาลของนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรีว่า พ.ต.ท.ทักษิณเคยเสนออยากลงทุนพัฒนาพลังงาน โดย พล.อ.เตีย บัญ กล่าวว่ารัฐบาลกรุงพนมเปญยินดีเปิดรับ โดยระบุชัดว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนักธุรกิจที่มีศักยภาพ หากเข้ามาลงทุนในประเทศกัมพูชาจริง จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตต่อไป นี่คือหลักฐานว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีความพยายามในการที่จะเข้าลงทุนธุรกิจด้านพลังงานในกัมพูชาจริง
นายชวนนท์กล่าวว่า นายกฯ ต้องไปดูรายละเอียดเรื่อง MOU 2544 ที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ยกเลิกไปแล้ว ไปดูเส้นเขตแดนทางทะเลที่เขียนในแผนที่ฉบับนั้นว่า ทำไมเราต้องยกเลิกเพราะกัมพูชานั้นขีดเส้นจากจุดสุดท้ายบริเวณแผ่นดินไทย คือ บริเวณหลักหมุดที่ 73 วิ่งเข้าทางตะวันตก ผ่าครึ่งเกาะกูดมุ่งหน้าเข้าอ่าวไทย เป็นเหตุให้พรรคประชาธิปัตย์ยอมรับไม่ได้ เพราะพูดง่ายๆ ก็คือวิ่งผ่านแผ่นดินไทยเข้ามาเอาน้ำมันในอ่าวไทย อย่างไรก็ตาม หากนายกฯ จริงใจให้ท่านไปแก้ปัญหา 3 เรื่องที่กล่าวมาก่อน ถ้าท่านแก้ได้ตนมีการบ้านให้ท่านอีกเยอะ
