เกาะกระแส
00 ท่าทีของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยเท่าที่จับอาการได้ ล่าสุดกรณีพื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร หลังจากได้ยินจากปากของ รมว.ต่างประเทศ สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ก็คือจะ “เดินหน้าสู้” คดีในศาลโลกอย่างเต็มที่ แต่ความหมายก็คือเป็น “เล่ห์กล” ที่กำลังใช้ศาลโลกเป็นเครื่องมือในการยกแผ่นดินให้เขมร “ฮุนเซน” เพราะจากคำพูดของ “ปึ้ง” ที่ถือว่าเป็นหัวเรือใหญ่หรือ “นอมินี” ในการสู้คดีคราวนี้ ก็บอกต่อท้ายแล้วว่าให้ “ทำใจ” และ “ให้ยอมรับคำพิพากษาของศาลโลก” ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้มันก็มีแต่ “เจ๊ากับเจ๊ง” อย่างที่มันบอกเอาไว้ตั้งแต่ต้นจริงๆ
00 พิจารณาจากอาการก็จับทางได้ว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่มี ทักษิณ ชินวัตร อยู่เบื้องหลัง ไม่สนใจเรื่องพื้นที่โดยรอบปราสาทพระวิหาร หรือพื้นที่อื่นๆ เพราะเป้าหมายสูงสุดคือ เอาอกเอาใจ ฮุนเซน เอาไว้ ต้องการรักษาความสัมพันธ์ เพื่อประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับมหาศาล หากจะว่าไปแล้วการที่ไทยเสียดินแดนให้เขมรยังเป็นผลดีเสียอีก โดยเฉพาะธุรกิจข้ามชาติทั้งบนบก และในทะเล เพราะการคุยใต้โต๊ะกับผู้นำเขมรมันง่ายกว่าเป็นร้อยเท่า
00 อีกทั้งหากไทยแพ้คดีในศาลโลกในวันหน้ายังเป็นการโบ้ยความผิดไปให้ รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าเป็นต้นเหตุที่ไปยอมรับ และเปิดทางให้เขมรนำคดีไปสู้ในศาลโลก ถ้าคิด “อุบาทว์” แบบนั้น ก็คิดได้ แต่ชาวบ้านคนที่ติดตามเขารู้ทัน ความผิดของรัฐบาลประชาธิปัตย์ในอดีตนั่นก็ใช่ส่วนหนึ่ง แต่นาทีนี้ เมื่อความรับผิดชอบอยู่ในมือของพรรคเพื่อไทย เป็นรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มร้อย และที่สำคัญยังมีเวลาที่จะถอนตัว รีบประกาศท่าทีปฏิเสธขอบเขตอำนาจศาลโลกให้ได้รับรู้ทั่วกันอย่างชัดเจนเสียตั้งแต่บัดนี้ หรืออย่างช้า ไม่เกินกลางเดือนเมษายน วันที่ศาลโลกนัดแถลงด้วยวาจา ถ้ารัฐบาลไทยเข้าไปประกาศในตอนนั้น หากเกิดอะไรขึ้นเป็นผลลบทำให้ไทยต้องเสียดินแดนเพิ่มแม้แต่ตารางนิ้วเดียว ก็ต้องรับผิดชอบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน อย่าหาว่าคนอื่นตาม “เกมกระจอก” แบบนี้ไม่ทันเป็นอันขาด !!
00 ศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. เริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เท่าที่เห็นอาจจะมองว่าเป็นการต่อสู้กันระหว่างสองพรรคใหญ่ คือ เพื่อไทย ที่ส่ง พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ กับ ปชป. ที่ส่ง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร รักษาแชมป์อีกรอบ ทั้งโพลการเมือง โพลรับจ้างทั้งหลายเริ่มออกโรงชี้นำให้เห็นว่า ฝ่ายหลังยังนำ ขณะที่ฝ่ายแรกเป็นรอง ซึ่งมองอีกมุมนี่คือ “เกม” หลอกต้ม ทั้งเป็นการชี้นำ และต้องการให้อีกฝ่ายตายใจ ขณะเดียวกันยังเป็นการกระตุ้นให้ฝ่ายของตัวเองที่บอกว่ายังตามหลังอยู่ รีบหาเสียงทำแต้ม รวมไปถึงให้ผู้สนับสนุนเร่งรวมตัวกันหาความสนับสนุนเพิ่มขึ้น
00 สำหรับ สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นาทีนี้แม้ว่าจะพยายามสร้างภาพกลบเกลื่อนความขัดแย้งในพรรคเพื่อไทย ประกาศหันหลังให้การเมืองชั่วคราว แต่ความเป็นจริง “เดินหน้าไม่ได้ต่างหาก” อย่างที่บอกมาหลายครั้งแล้ว ตราบใดที่ “สามหญิง” ยังมีอิทธิพลในอยู่พรรคอย่างที่เป็นอยู่ “เจ๊หน่อย” ก็ต้องถูกกันออกไป ซึ่งแน่นอนว่า หนึ่งในสามหญิงที่ว่านั่นก็คือ “ปู” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นั่นแหละ นี่ยังไม่นับพวกคู่อาฆาตเดิมๆ ที่เป็น “ลูกหาบ” ระดับ “ขี้ข้า” อย่าง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่คอยขวางอยู่สุดฤทธิ์อีกด้วย ถึงว่ามันยากสสส์ ไงล่ะเจ๊ !!