โฆษก พท.ได้ทีไล่อัดสองแกนนำ ปชป. ยกตรรกะฟ้องกลับดีเอสไอคือข่มขู่ ติงวุฒิภาวะต้องดีกว่านี้ ย้อนเคยคุมคดีเอง โดนฟ้องดันโวย ซัดต้องมีแค่แก๊งแดงหรือที่มีคดี โวแต่ถึงยังไงก็ไม่เคยฟ้องกลับ เย้ยอย่าลืมการกระทำตัวเอง ทองแท้ย่อมไม่กลัวไฟ
วันนี้ (17 ม.ค.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ จะยื่นฟ้องนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และพนักงานสอบสวนของดีเอสไอรวม 4 คน กรณียัดเยียดข้อกล่าวหาฆ่าคนตายโดยเจตนาและเล็งเห็นผลจากการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพื่อควบคุมความไม่สงบในการชุมนุมของคนเสื้อแดงในระหว่างเดือน เม.ย.-พ.ค.ปี 53ว่า น่าจะเป็นพฤติการณ์ที่เหมือนเป็นการข่มขู่บุคคลในกระบวนการยุติธรรม ทั้งๆ ที่การใช้สิทธิฟ้องศาลนั้นต้องกระทำโดยสุจริต ปราศจากการข่มขู่และคุกคาม ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์เป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพก็เป็นถึงอดีตรองนายกรัฐมนตรี ต้องมีวุฒิภาวะในเรื่องนี้ แม้ว่าจะถูกดำเนินคดีก็ต้องพร้อมให้กระบวนการยุติธรรมตรวจสอบ
นายพร้อมพงศ์กล่าวอีกว่า ตนได้ตรวจสอบแล้วว่ามติของคณะกรรมการคดีพิเศษเกิดขึ้นในสมัยที่นายอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพเป็นประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ ดังนั้นเมื่อมติของคณะกรรมการคดีพิเศษออกมาแบบนี้แต่กลับจะไปยื่นฟ้องคดีต่อศาลนั้น จึงเหมือนกับไม่ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเคยให้อำนาจและหน้าที่กับดีเอสไอไว้ มองว่าไม่ถูกต้องและน่าจะไม่ชอบธรรม อยากถามว่ามติของคณะกรรมการคดีพิเศษนั้นมีไว้สำหรับดำเนิคคดีต่อผู้ชุมนุมที่เป็นคนเสื้อแดงเท่านั้นใช่หรือไม่ ทั้งนี้ อยากให้นายอภิสิทธิ์และนายสุเทพเลิกกดดันกระบวนการยุติธรรมแล้วปล่อยให้ดำเนินการสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงไปตามขั้นตอน หากคิดว่าตัวเองไม่ได้กระทำความผิดเหมือนทองแท้ไม่กลัวไฟก็ต้องปล่อยให้กระบวนการยุติธรรมเดินหน้าต่อไป ไม่ใช่ยื่นฟ้องเหมือนลักษณะน่าจะหวังปิดปากแบบนี้ ทั้งๆ ที่ผ่านมาคนเสื้อแดงเองยังไม่เคยยื่นฟ้องร้องการทำหน้าที่ของดีเอสไอเลย
“อยากให้นายอภิสิทธิ์และนายสุเทพเก็บอาการและหลักฐานไว้ต่อสู้ในชั้นศาลจะดีกว่า จะได้ไม่ถูกมองว่าน่าจะสองมาตรฐาน หรือเป็นคนความจำสั้น ลืมการกระทำของตัวเองในอดีต” โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าว