นายกรัฐมนตรีเป็นประธานเปิดโครงการ “การเคหะฯ ชุมชนสีขาว ปลอดยาเสพติด” หนุนชาวชุมชนป้องกันยาเสพติด โปรยยาหอมรัฐบาลพร้อมจัดสรรงบฯ ปรับสภาพความเป็นอยู่ชุมชน พบ “พงศพัศ” ติดสอยห้อยตามพร้อม “สันติ-หมอประสิทธิ์-เจ๊ติ๋ว-ประชา”
วันนี้ (23 ธ.ค.) ที่สนามกีฬาการเคหะแห่งชาติ คลองจั่น เขตบางกะปิ เมื่อเวลา 15.30 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดโครงการ “การเคหะฯ ชุมชนสีขาว ปลอดยาเสพติด” ที่การเคหะแห่งชาติ ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจในสังกัดของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จัดขึ้น เพื่อสนับสนุนกระตุ้นให้ชาวชุมชน องค์กรชุมนุม เป็นแกนหลักในการป้องกันยาเสพติดเพื่อให้เกิดชุมชนสีขาวในทุกชุมชนของการเคหะฯ ตามที่รัฐบาลได้ประกาศนโยบาย “พลังแผ่นดินขจัดสิ้นยาเสพติด” ให้เป็นวาระแห่งชาติ โดยมีภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องทั้งจากกระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส.
โดยในวันนี้มีชุมชนร่วมกิจกรรมกว่า 221 ชุมชน รวมประมาณ 12,000 คน ซึ่งเป็นชุมชนในกรุงเทพฯ จำนวน 179 ชุมชน และจากภาคต่างๆ ทั้ง 4 ภาค จำนวน 42 ชุมชน โอกาสนี้นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสัมคมและความมั่นคงของมนุษย์, นพ.ประสิทธิ์ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายประชา ประสพดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. ร่วมในพิธีดังกล่าว
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาเห็นพลังของประชาชนที่มารวมพลังกันในโครงการ “การเคหะชุมชนสีขาว ปลอดยาเสพติด” ถือเป็นการทำงานระหว่างภาครัฐและประชาชนที่พร้อมใจกันแก้ไขและป้องกันปัญหายาเสพติด รัฐบาลให้ความสำคัญกับนโยบายการปราบปรามยาเสพติด ที่เราถือเป็นวาระแห่งชาติที่เราต้องร่วมกันแก้ไข และปรับปรุง ทั้งยังให้ความสำคัญในการป้องกันตั้งแต่ต้นเหตุ รวมถึงมองเรื่องการบำบัด และรักษาผู้เสพ
โดยเฉพาะการแยกกลุ่มผู้เสี่ยงออกจากผู้ขาย ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้ต้องลงไปทำงานในพื้นที่อย่างใกล้ชิด เช่น โครงการล่าสุดที่รัฐบาลพร้อมใจกับชุมชนในโครงการ “อุ่นใจ ได้ลูกหลานกลับคืน” ที่รัฐบาลร่วมกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาคประชาชน และภาครัฐ ในการบำบัดลูกหลานให้กลับคืนสู่ชุมชน และวันนี้อีกหนึ่งนโยบายของรัฐบาลคือการป้องกัน และแก้ยาเสพติด ซึ่งเราเห็นว่า สิ่งนี้เป็นการแก้ไขแต่ต้นทาง และต้นเหตุที่เกิดขึ้น
ฉะนั้น การดำเนินการเหล่านี้จะไม่สำเร็จ ถ้าไม่ได้รับการรวมพลังจากสังคม โดยเฉพาะพลังชุมชน และครอบครัว และพลังของครอบครัวจะเป็นจุดในการร่วมกันใส่ใจ และป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาต่างๆ เหล่านี้ในครอบครัวหรือชุมชนของท่านเพื่อเป็นเกราะในการป้องกันยาเสพติดตลอดไป โดยเฉพาะชุมชนการเคหะแห่งชาติที่ถือเป็นชุมชนขนาดใหญ่ที่มีพลังเข้มแข็ง รัฐบาลจึงได้ร่วมมือกับการเคหะแห่งชาติ และกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ที่ร่วมกันแก้ไข ปัองกันปราบปรามยาเสพติด ให้พ้นลูกหลานของเรา
นอกจากนี้ รัฐบาลยังมองถึงคุณภาพชีวิตของชุมชนการเคหะฯ ที่รัฐบาลให้ความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการแก้ไขปัญหายาเสพติด จึงได้ให้แนวทาง และฝากให้กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกับจัดสรรงบประมาณเพื่อเข้าไปพัฒนาสภาพแวดล้อมให้สภาพชุมชนเป็นชุมชนที่น่าอยู่ มีความสุข สามัคคี ปราศจากยาเสพติด ปลอดอาชญากรรม ซึ่งหวังว่าโครงการนี้จะได้รับการตอบรับจากประชาชนให้เป็นโครงการชุมชนสีขาวที่ปราศจากยาเสพติดโดยแท้
