xs
xsm
sm
md
lg

กกต.ใส่ประชานิยมลงหลักสูตร พตส. ปัดนักการเมืองมีเอี่ยว จี้ถามเหตุ ปชช.อยากแช่แข็ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง(แฟ้มภาพ)
“สดศรี” เผยหลักสูตร พตส.รุ่น 4 กกต.คัดเพียง 80 คน แบ่งครึ่งฝั่งการเมือง-ทั่วไป ยันไม่ใช่ที่สร้างเครือข่ายนักการเมือง แนะดูศิษย์เก่า ชี้ทำเพื่อให้มีอุดมการณ์ พร้อมบรรจุประชานิยมให้เรียนรู้เพื่อปรับปรุงกับนโยบาย สะกิดนักการเมืองดูตัวเองเหตุใด ปชช.อยากแช่แข็ง ย้ำการเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง วอนทุกพรรคอย่าดึงสถาบันไปเกี่ยว

วันนี้ (30 พ.ย.) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้จัดพิธีเปิดการศึกษาอบรมและปฐมนิเทศผู้เข้าอบรมหลักสูตรการพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูง หรือ พตส. รุ่นที่ 4 โดยนางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงการเปิดหลักสูตร พตส.รุ่น 4 ว่า หลักสูตร พตส.ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีหลายคนต้องผิดหวังไม่ได้ถูกคัดเลือกให้เข้ารับการอบรมในหลักสูตรครั้งนี้ เพราะว่าหลักสูตรดังกล่าวเราได้กำหนดรับนักศึกษาทั้งสิ้นเพียงแค่ 80 คน มาจากผู้ที่เกี่ยวข้องด้านการเมือง 40 คน และบุคคลทั่วไป 40 คน ซึ่งจะมีทั้งนักธุรกิจ ข้าราชการ รวมถึงสื่อมวลชนด้วย

เมื่อถามว่าหลักสูตร พตส.ถูกมองว่าให้นักการเมืองเข้ามาเพื่อสร้างเครือข่าย นางสดศรียืนยันว่า หลักสูตรดังกล่าวจะไม่ทำให้นักศึกษาที่เข้าอบรมใช้โอกาสนี้เชื่อมโยงความสัมพันธ์เพื่อหาผลประโยชน์ร่วมกัน สังเกตได้จากการอบรม 3 รุ่นที่ผ่านมาก็ไม่เคยพบปัญหาดังกล่าว ในทางกลับกันจะทำให้นักศึกษามีอุดมการณ์ร่วมกันเพื่อแก้ปัญหาประเทศ อย่างไรก็ตาม ในหลักสูตรครั้งนี้ ได้มีการบรรจุหัวข้อเกี่ยวกับนโยบายประชานิยมเพื่อให้นักศึกษาได้ตระหนักถึงความอยู่รอดของประเทศ และไม่ทำลายประเทศ ซึ่งการใช้นโยบายประชานิยมต้องคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ หากจะนำไปเป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง นักการเมืองต้องมีความเข้าใจ ปรับปรุงเพื่อให้เกิดความเหมาะสม ซึ่งจะไม่เป็นปัญหาต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ พร้อมเน้นย้ำว่าความรู้เกี่ยวกับนโยบายประชานิยม จะเป็นประเด็นหลักที่ กกต.จะให้ความสำคัญในการอบรมในหลักสูตรพตส.ต่อไป

กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง ยังกล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบันหลังมีการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามว่า สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้นักการเมืองต้องตระหนักว่าเหตุใด ประชาชนถึงไม่พอใจและต้องการแช่แข็งนักการเมือง ซึ่งตนเห็นว่าปัญหาที่เกี่ยวกับการเมืองต้องแก้ด้วยนักการเมืองที่จะต้องมาพูดคุยกัน เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นในการแก้ปัญหาของประเทศ ส่วนกรณีที่ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ อดีตประธานองค์การพิทักษ์สยาม ออกมาระบุว่าในการชุมนุมครั้งต่อไปอาจมีการใช้อาวุธเพื่อให้ผู้ชุมนุมป้องกันตัวนั้น เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องทำความเข้าใจกับประชาชนถึงการทำงานของรัฐบาล เพื่อสร้างความชัดเจนในสิ่งที่กลุ่มผู้ชุมนุมอยากทราบ

ส่วนที่ พล.อ.บุญเลิศได้นำคลิปวิดีโอที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยบางคนพูดจาในลักษณะที่เข้าข่ายล่วงละเมิดสถาบันมาเปิดเผยนั้น เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมที่ต้องดำเนินการตรวจสอบต่อไป แต่ในส่วนของ กกต.อยากให้ทุกพรรคการเมือง นักการเมือง และผู้ที่เกี่ยวข้อง ตระหนักให้สถาบันอยู่เหนือการเมือง ซึ่งถือว่าเป็นประเด็นสำคัญที่สุด เนื่องจาก กกต.เคยเรียกประชุมพรรคการเมืองและมีการปฏิญาณตนว่าจะไม่นำสถาบันเข้ามาเกี่ยวข้อง


กำลังโหลดความคิดเห็น