นายกฯ นั่งหัวโต๊ะประชุม ครม.ย่อย คง พ.ร.บ.มั่นคงชายแดนใต้ ไปอีก 1 ปี “เฉลิม” เผย “ปู” คุมภาพรวมเอง “สุกำพล” ดูงานพื้นที่ รับถูกให้นั่งรอง ปธ.ศปก.กปต. บอกนายกฯ ให้ทบทวนใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โยนกก.พิจารณายกเลิกตามโอไอซีเสนอหรือไม่ อ้างโพลบอกชาวบ้านพอใจตำรวจถล่มม็อบ พร้อมหามาตรการเพิ่มแนวป้องกันปะทะ โบ้ย “ชูวิทย์-วิลาศ” แฉกลางวงซักฟอกอนุมัติในยุค “มาร์ค”
วันนี้ (30 พ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 10.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กลุ่มย่อย จำนวน 9 คน ประกอบด้วย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการะทรวงกลาโหม นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ พล.อ.พฤณท์ สุวรรณทัต รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ทั้งนี้เพื่อพิจารณาแนวทางการต่ออายุประกาศใช้พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 (พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ) ในพื้นที่ 4 อำเภอใน จ.สงขลา และ อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี รวมถึงหารือถึงสถานการณ์ความมั่นคงในประเด็นอื่น โดยใช้เวลาประชุมร่วมกันราว 1 ชั่วโมง
หลังจากการประชุมแล้วเสร็จ ร.ต.อ.เฉลิมได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ที่ประชุมได้มีมติขยายต่ออายุ พ.ร.บ.ความมั่นคงในพื้นที่ดังกล่าวไปอีก 1 ปี เพื่อใช้เป็นกฎหมายหลักสำหรับการปฏิบัติงาน โดยแนวทางที่จะแก้ปัญหาต่อไปนี้นั้น นายกฯ ในฐานะผู้บริหารได้ลงมากำกับเองในภาพรวม ทั้งในเรื่องงบประมาณ และการสั่งการในภาพรวมทั้งหมด ขณะที่ พล.อ.อ.สุกำพลจะรับผิดชอบงานในพื้นที่ ส่วนตนจะเป็นรองประธานศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์แก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.)
รองนายกรัฐมนตรีระบุด้วยว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งให้ที่ประชุมไปทบทวนศึกษาการใช้พระราชกำหนดการบริหาราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างรอบคอบ และหากเจ้าหน้าที่เห็นชอบก็พร้อมจะลดการใช้ในพื้นที่การใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ให้มากที่สุด โดยขอยืนยันว่ารัฐบาลใช้ความประนีประนอมในการแก้ปัญหา พร้อมกับหามาตรการอื่นๆ ในการแก้ปัญหาให้เหมาะสม ส่วนกรณีที่ประชุมองค์การการประชุมอิสลาม (โอไอซี) เสนอให้มีการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการ ตนคงไปตอบแทนคณะกรรมการที่จะพิจารณาไม่ได้
ส่วนของการประเมินการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า โดยภาพรวมถือว่าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในระดับที่น่าพอใจ เพราะผลสำรวจยืนยันว่าประชาชนพอใจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่างไรก็ตาม ได้พยายามจะวางแนวทางมาตรการใหม่เพื่อรองรับการชุมนุมที่อาจจะมีขึ้นต่อไป โดยจะหามาตรการเพื่อไม่ให้มีการเข้าไปถึงแนวปะทะ เพื่อป้องกันการกระทบกระทั่งระหว่างผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งไม่เป็นผลดีกับทั้ง 2 ฝ่ายและลดความรุนแรง ทั้งนี้เชื่อว่ามีการพยายามเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล แต่ขณะนี้ยังไม่มีเงื่อนไขที่จะนัดชุมนุม
ร.ต.อ.เฉลิมยังกล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคฝ่ายค้านที่ผ่านมาด้วยว่า ยืนยันว่าโครงการการก่อสร้างสถานีตำรวจที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทยนำมาอภิปราย รวมถึงกรณีการทุจริตในโครงการงบประมาณรับมือภัยพิบัติที่ นายวิลาศ จันทรพิทักษ์ ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์นำมาอภิปรายนั้น เป็นเรื่องเก่าที่มีการอนุมัติโครงการในสมัยพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล