xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” ติงรัฐช้าป้องกันครูใต้ ตกใจ “เจ๊เบียบ” ป้อง “จ่าประสิทธิ์” สั่ง ปชป.อย่าหยุดแฉ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (แฟ้มภาพ)
หัวหน้าประชาธิปัตย์ ติงรัฐหามาตรการป้องกันร่วมครูช้า ขาดเอกภาพ ซัดคนรับผิดชอบไม่ชัดทำชาวบ้านรู้สึกเหมือนโดนลอยแพ ย้ำชง 1 รมต.คุมพื้นที่ สับนายกฯ เมินติดตามผลงาน ตกใจ “เมียเสริมศักดิ์” ป้อง “จ่าประสิทธิ์” แซว “เจ๊โอ๋” เป็นสีสัน รอดูรัฐปราบโกงหรือปราบคนส่งข้อมูล สั่งลูกพรรคอย่าหยุดแฉ

วันนี้ (29 พ.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่สมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ประชุมเพื่อปิดการเรียนการสอนโรงเรียน 300 กว่าแห่งนั้นว่า เรื่องดังกล่าวไม่ใช่ปัญหาใหม่ มีเกิดขึ้นเป็นระยะ ต้องพยายามหาวิธีการและปรับแผนอยู่ตลอดเวลา เพราะครูและข้าราชการในพื้นที่เป็นเป้าของผู้ก่อความไม่สงบอยู่เกือบตลอดเวลา ซึ่งตนมองว่าการเข้าไปของภาครัฐเพื่อที่จะหามาตรการป้องกันร่วมกับครูในพื้นที่ทำค่อนข้างช้า ทั้งที่มีข่าวมาระยะหนึ่งแล้วแต่กลับไม่มีการออกมาตรการหรือการพูดคุยเพื่อหาทางออกซึ่งก็ถือเป็นปัญหาอยู่ รวมถึงการแก้ปัญหาที่ขาดความเป็นเอกภาพ และประสิทธิภาพ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมาก็มีการพูดถึงจังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งก็มีสาระสำคัญชัดเจน แต่ในการตอบการอภิปรายของ รมว.กลาโหม กลับชี้แจงว่าจะปรับเป็นยุทธศาสตร์เชิงรุกมากขึ้น ทั้งที่งานในเชิงรับคือการคุ้มครองครู จึงทำให้มีความสับสนอยู่ นอกจากนั้น การที่ไม่มีความชัดเจนว่ามอบหมายใครรับผิดชอบส่วนไหน มาตรการคืออะไรนั้นทำให้คนในพื้นที่มีความรู้สึกว่าถูกลอยแพ

“หลักที่จะต้องทำ คือ ต้องมีการพบปะโดยเร็วที่สุด และหามาตรการเพื่อรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งอาจจะมีประเด็นในเชิงนโยบายที่อาจจะต้องสนับสนุนกำลังพล งบประมาณหรือกฎระเบียบต่างๆ ก็ต้องย้อนกลับมาที่ฝ่ายนโยบาย เวลามีประเด็นในเชิงนโยบายก็ต้องพูดคุยกับฝ่ายนโยบายโดยเร็วที่สุด ซึ่งผมได้เคยเสนอว่าผมอยากให้มีรัฐมนตรี 1 คนที่ลงไปในพื้นที่ แต่รัฐบาลก็ยังไม่ยอมรับข้อเสนอนี้” นายอภิสิทธิ์กล่าว

เมื่อถามว่า การที่รัฐบาลไม่ยอมรับข้อเสนอของฝ่ายค้านจะเกี่ยวกับเรื่องของหน้าตารัฐบาลหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนไม่อยากจะเชื่ออย่างนั้น และไม่คิดว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับหน้าตา แต่เหมือนลอยแพ หรือไม่ใส่ใจมากกว่าซึ่งเป็นปัญหาที่เราเรียกร้องมาโดยตลอด ซึ่งปัญหาขณะนี้ของนายกฯ คือการไม่มีการติดตามประเมินผลอะไรทั้งสิ้นในทุกเรื่อง ส่วนกรณีที่จะให้มีการเลื่อนวิทยฐานะในพื้นที่เป็นพิเศษ รวมถึงการเพิ่มเบี้ยเสี่ยงภัยให้ครูในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยในเรื่องขวัญกำลังใจ แต่ประเด็นเรื่องความปลอดภัย การคุ้มครอง การดูแลเป็นเรื่องที่ต้องทำ เพราะไม่สามารถหยิบเฉพาะเรื่องขวัญกำลังใจมาทดแทนในแง่ความปลอดภัยได้ ซึ่งต้องมีการทำควบคู่กันไป

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ยังกล่าวถึงการวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมของ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ ว่า ตนข้องใจนิดหน่อยที่นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช นายกสมาคมเสริมสร้างครัวครอบครัวให้อบอุ่นและเป็นสุข ออกมาพูดทำนองว่าเป็นสีสันทางการเมือง และมองว่าน่ารักดี ตนรู้สึกตกใจ เพราะนางระเบียบรัตน์เคยเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเรื่องของภาพลักษณ์สตรีมาโดยตลอด ซึ่งหวังว่าจะทบทวนท่าทีนี้ ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นว่าสิ่งที่หลักสากลค่อนข้างถือมาก แต่มาบอกกับสังคมไทยว่าไม่เป็นไร เป็นเรื่องเหมือนกับหยอกล้อหรือเรื่องเล่นกัน ส่วนกรณีคลิปในการประชุมที่กระทรวงกลาโหมที่มีการสอบเพื่อเอาผิดคนที่อัดคลิปแทนที่จะเอาผิดคนที่ทำผิดในคลิปนั้น ตนขอให้ดูต่อไปว่าข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตที่เสนอไป รัฐบาลจะเอาข้อมูลไปปราบทุจริต หรือจะมาปราบคนที่ให้ข้อมูล เพราะขณะนี้มีหลายเรื่องที่มีการเคลื่อนไหวในลักษณะนี้อยู่ รวมทั้งเรื่องจำนำข้าว

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์จะยังเดินหน้าทำงานต่อหลังจากจบการอภิปราย ซึ่งเมื่อวานหลังจากลงมติเสร็จ ตนก็เรียกประชุมผู้ที่ทำหน้าที่อภิปราย โดยได้กล่าวขอบคุณและให้กำลังใจ เพราะเห็นว่าหลายคนจะโดนเล่นงาน ซึ่งตนก็บอกว่าอย่าหยุดทำงาน ต้องเอาข้อมูลไปใช้ประโยชน์จริงๆ ซึ่งก็คิดว่าภายในอีก 1-2 สัปดาห์นี้พวกตนจะเดินหน้าทำสิ่งเหล่านี้ต่อ ซึ่งในช่วงเปิดสมัยประชุมในเดือนธันวาคมก็จะมีการแถลงผลงาน 1 ปีรัฐบาล ซึ่งจะเป็นอีกโอกาสหนึ่งในการนำเสนอหลายต่อหลายประเด็นที่ฝ่ายค้านมีข้อสงสัยอยู่ ส่วนความพยายามกลั่นแกล้งทางการเมืองในช่วงที่ปิดสมัยประชุม เช่นการแจ้งข้อหานั้น ตนอยู่ภายใต้กฎหมาย ซึ่งคนที่คิดจะทำอะไรกับตนก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเช่นเดียวกัน


กำลังโหลดความคิดเห็น