รมว.ศธ.รับประสานความมั่นคงดูแลครู จชต.ตลอด รับเสียใจ ผอ.หญิง ร.ร.ใต้ถูกยิง ส่ง “เสริมศักดิ์” ร่วมพระราชทานเพลิงศพ พร้อมถกหน่วยงานในพื้นที่ เล็งเพิ่มเบี้ยเลี้ยงครู รับต้องดูแลหลังประสพเหตุต่อ ย้ำรัฐยึดพระราชโอวาททำ จชต.สงบ ชี้ไม่จำเป็นต้องมี รมต.ในพื้นที่ ยันไม่ลอยปัญหา-เผยบทสุปแก้ รธน. ส่งถึงพรรคร่วม โยนตัดสินใจประชามติ ปัดตีกินผล คอป. แถยึด ปชช.เป็นหลัก ขออยู่ในกติกาแม้การเมืองไม่นิ่งเพื่อเดินหน้าประเทศ
วันนี้ (27 พ.ย.) ที่รัฐสภา นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีมติหยุดการเรียนการสอนใน 321 โรงเรียน เพื่อเรียกร้องให้ทบทวนการคุ้มครองครูว่า การคุ้มครองครู บุคลากรทางการศึกษาและนักเรียนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีการประสานกับหน่วยงานความมั่นคงโดยตลอด ส่วนจะเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่หรือไม่ ต้องดูที่แต่ละจุดและเส้น ซึ่งทางยุทธศาสตร์การดูแลมีอยู่แล้ว แต่กรณียิงนางนันทนา แก้วจันทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เป็นเรื่องที่น่าเสียใจ วันที่ 29 พ.ย.จะมีการพระราชทานเพลิงศพ และนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาฯ จะลงไปในพื้นที่ ทั้งนี้ วันที่ 30 พ.ย.ผู้แทนครูติดต่อขอพบตนที่กระทรวงเพื่อมาหารือ โดยอาจจะมีการประเด็นเรื่องขวัญกำลังใจ ต้องยอมรับว่าครูในพื้นที่มีความเสี่ยงภัยมากกว่าพื้นที่อื่นมาก ฉะนั้นจึงต้องดูแลให้มีขวัญกำลังใจเต็มที่ รัฐบาลเข้าใจดีว่าสถานการณ์อย่างนี้คนที่ทำงานที่มีความเสี่ยงก็ต้องมีขวัญกำลังใจ อาจจะไม่ใช่เรื่องการเพิ่มเบี้ยอย่างเดียว เช่น กรณีบาดเจ็บ เสียชีวิต จะมีการดูแลลูกหลานอย่างไร ทั้งนี้ ช่วงเดือนธันวาคมตนก็จะลงพื้นที่อีกครั้ง อย่างไรก็ตามคาดว่าต้นเดือนธันวาคมโรงเรียนจะกลับมาเปิดตามปกติ
เมื่อถามว่าสถานการณ์เกิดขึ้นรายวันเป็นเพราะรัฐบาลในส่วนนโยบายปล่อยปละละทิ้งหรือไม่ นายพงศ์เทพกล่าวว่า ก่อนรัฐบาลเข้ามาเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นเช่นกัน รัฐบาลตั้งใจเต็มที่ที่จะนำสันติสุขกับมาภาคใต้ ต้องทำแบบซื้อใจกันและร่วมมือร่วมใจกัน การแก้ไขปัญหาไม่ใช่ใช้กำลังเพียงอย่างเดียว ต้องยึดพระบรมราโชวาทเข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ส่วนที่ฝ่ายค้านเสนอให้มีรัฐมนตรีอยู่ในพื้นที่นั้นต้องมีการหารือในคณะรัฐมนตรี แต่การไปประจำพื้นที่คงไม่ใช่เรื่องสำคัญ มีการติดตามใกล้ชิดมีคนดูแลอยู่ ยืนยันรัฐบาลไม่ได้ลอยตัวเหนือปัญหา เพราะรัฐบาลต้องรับผิดชอบทุกเรื่องที่เกิดขึ้น
ด้านนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ตนจะลงพื้นที่ในวันที่ 29 พ.ย.เพื่อร่วมงานศพของผู้อำนวยการโรงเรียนท่ากำชำ และจะมีการหารือกับหน่วยงานด้านความมั่นคง และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) รวมทั้งจะมีพบการสมาพันธ์ครูด้วย ส่วนเรื่องเบี้ยเสี่ยงภัยจะมีพิจารณาจากเดิม 2,500 บาท อาจจะเพิ่มให้เป็น 3,500 บาท
ขณะที่นายพงศ์เทพในฐานะรองประธานคณะทำงานพิจารณาศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามมาตรา 291 ให้สัมภาษณ์ถึงการดำเนินการของคณะทำงานว่า คณะทำงานคงมีการสรุปเรื่องแล้ว จากนั้นก็จะเสนอไปยังพรรคร่วมรัฐบาลว่าเห็นว่าควรจะดำเนินการอย่างไร ทั้งนี้ตนไม่ทราบว่ามีข้อสรุปอย่างไร เนื่องจากติดภารกิจที่กระทรวง เมื่อถามว่าร่างที่ค้างอยู่ในสภาจะมีการลงมติก่อนทำประชามติหรือไม่ นายพงศ์เทพกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับพรรคร่วมรัฐบาลจะพิจารณาข้อเสนอของคณะทำงาน
เมื่อถามว่าข้อเสนอของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ให้หยุดการแก้รัฐธรรมนูญไขและ พ.ร.บ.ปรองดองเพราะเกรงว่าจะทำให้เกิดปัญหานั้น นายพงศ์เทพกล่าวว่า รัฐบาลก็รับฟัง และรับฟังข้อเสนออื่นๆ อย่างรอบด้านด้วย ยืนยันไม่ได้เลือกเฉพาะที่เป็นประโยชน์กับรัฐบาล แต่เลือกประโยชน์ประชาชน
เมื่อถามว่าขณะที่รัฐบาลอยากให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าแต่การเมืองยังไม่นิ่ง นายพงศ์เทพกล่าวว่า การเมืองจะนิ่งหรือไม่นิ่งต้องมีกติกาที่ถูกต้องเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย ถ้ากติกาไม่เป็นธรรมประเทศชาติก็เดินไปไม่ได้ ก็คือรัฐธรรมนูญที่เป็นธรรม ไม่ได้ตั้งขึ้นมาส่วนใดส่วนหนึ่ง
