“เพื่อแม้ว” เย้ยเสธ.อ้ายจุดไฟไม่ติด เชื่อ รบ.ทางสะดวกไร้ม็อบอีกนาน

เลขาฯ สมช.คาดเลิก พ.ร.บ.มั่นคงไม่เกิน 26 พ.ย.นี้ “วราเทพ” ชี้คำสั่งยกเลิกรอนายกฯ เซ็นไม่ต้องเข้า ครม.ย่อย ขณะที่ “เพื่อแม้ว” ประเมินม็อบถอยเพราะจุดกระแสมวลชนไม่ติด ไม่สามารถทำให้ฝ่ายทหารเคลื่อนไหวได้ มั่นใจ รบ.ไร้ก้างขวางคออีกนาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (24 พ.ย.) พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเป็นผู้ประเมินสถานการณ์และเสนอต่อนายกฯ เพื่อให้ลงนามยกเลิก พ.ร.บ.ดังกล่าว ซึ่งคำสั่งนี้ได้มีการจัดทำไว้แล้วโดย กอ.รมน. แต่ตำรวจอาจจะเคลียร์พื้นที่ก่อน คาดว่าจะเสนอให้นายกฯยกเลิกประกาศภายในวันที่ 25 พ.ย. หรือไม่เกินวันที่ 26 พ.ย.นี้ หลังจากนั้นก็จะประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน

ตนเชื่อว่าจะมีการมาชุมนุมอีก เพราะมีการเพาะหัวเชื้อไว้แล้ว แต่น่าจะหลังจากปีใหม่ไปแล้วเนื่องจากเดือนหน้าเป็นเดือนมหามงคล จากนั้นก็เป็นช่วงปีใหม่ การยุติทันทีอาจทำให้ พล.อ.บุญเลิศเสียแนวร่วมพอสมควร อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าคงไม่ได้ประกาศยกเลิกเพื่อสับขาหลอกรัฐบาล เพราะประเมินว่ากลุ่มนี้สู้ตามสถานการณ์

ด้านนายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงจะต้องยกเลิกอยู่แล้ว อำนาจเป็นของนายกฯ จากนี้ไปทาง กอ.รมน.ก็มีการประชุมและทำรายงานมาที่นายกฯ ว่าสมควรยกเลิกประกาศถ้านายกฯเห็นด้วยก็ลงนามประกาศให้สิ้นสุดการทำงานของ ศอ.รส.จากนั้นนายกฯ ไปรายงานผลให้รัฐสภาทราบตามมาตรา 15 ทั้งนี้ การยกเลิกไม่ต้องมีการประชุมการประชุมคณะรัฐมนตรีชุดย่อยเหมือนตอนที่จะเตรียมประกาศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การที่ อพส.ประกาศจะระดมคนมาชุมนุมจำนวน 1 ล้านคนนั้น แต่ผู้มาร่วมชุมนุมในวันที่ 24 พ.ย.กลับไม่เป็นไปตามเป้า เนื่องจากพรรคการเมืองที่จะสนับสนุนคนเข้ามาร่วมกลับมาหัก พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธาน อพส.ในช่วงโค้งสุดท้าย เพราะคิดแล้วว่าจะไม่คุ้ม ทำให้ พล.อ.บุญเลิศต้องประกาศยกเลิกการชุมนุม

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า แกนนำพรรคเพื่อไทยได้ประเมินการยุติชุมนุมอย่างรวดเร็วของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามว่าเป็นเพราะ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ไม่สามารถจุดกระแสมวลชนให้ติด คนมาร่วมชุมนุมน้อยเกินคาด ไม่สามารถทำให้ฝ่ายทหารเคลื่อนไหวได้ จึงประกาศยุติการชุมนุมทันทีหลังจากทำตามเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้แล้ว ท่ามกลางความไม่พอใจของกลุ่มทุนสนับสนุนและแนวร่วม นอกจากนี้ แกนนำพรรคเพื่อไทยยังเชื่อว่าการชุนนุมครั้งต่อไปจะมีคนหน้าใหม่มานำขบวนแทน กระนั้นก็เชื่อว่าจะยังไม่สามารถปลุกระดมมวลชนมาต่อต้าน ล้มล้างรัฐบาลในระยะเวลาอันใกล้นี้ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยเกื้อหนุน