ผู้ประสานการเมืองสีเขียว เชื่อรัฐปั่นกระแสหวาดกลัว หวังประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ล้มทั้งม็อบและการอภิปรายฯ หาก ตร.5 หมื่นนายสกัดคนไม่อยู่ เข้าทางยิ่งลักษณ์ที่กลัวการอภิปรายพอๆ กับม็อบ แนะ อพส.ยึดสันติอหิงสา ถือความชอบธรรมที่เหนือกว่า
วันนี้ (23 พ.ย.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน เผยถึงการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ของรัฐบาลมีสาเหตุจากการชุมนุมกำลังกระทบเสถียรภาพและความชอบธรรมของรัฐบาล เป็นปัญหาความไม่มั่นคงของรัฐบาลนอมินีไม่ใช้ปัญหาความมั่นคงของประเทศ นอกจากนี้ การวางกำลังเจ้าหน้าที่ยังมีเจตนาขัดขวางการชุมนุมอย่างชัดเจน เพราะจุดที่วางกำลังเจ้าหน้าที่เป็นทางเข้าออกสำคัญของผู้ชุมนุม และการสร้างและปั่นระแสการชุมนุมให้น่ากลัวครั้งนี้เชื่อว่าเป็นการปูทางสู่การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หากกำลัง 5 หมื่นนายไม่สามารถสกัดกั้นการผู้ชุมนุมในวันหรือสองวันนี้ได้
ทั้งนี้ หากมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินก็จะทำให้รัฐบาลได้ประโยชน์อีกต่อหนึ่ง เพราะจะไม่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เองก็ไม่อยากถูกอภิปรายอยู่แล้วเพราะในสภาฯ ต้องช่วยตัวเองในการตอบคำถามฝ่ายค้านและมีหลายเรื่องที่รัฐบาลจะตอบไม่ได้โดยเฉพาะนโยบายจำนำข้าว การทุจริตคอร์รัปชัน รวมทั้งปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้
นายสุริยะใสยังระบุถึงถ้อยแถลงของนายกฯ ที่กล่าวอ้างว่าตัวมาจากการเลือกตั้งนั้น เป็นคนละประเด็นกับการชุมนุมเพราะผู้ชุมนุมไม่ได้ต่อต้านผลการเลือกตั้ง แต่ต่อต้านรัฐบาลที่อ้างผลการเลือกตั้งไปทุจริตคอร์รัปชันและใช้อำนาจมิชอบ อย่างไรก็ตาม ตนเห็นด้วยกับองค์กรพิทักษ์สยามที่ต้องยึดหลักสันติวิธี ชุมนุมโดยสงบตามรัฐธรรมนูญ จะทำให้ได้รับความชอบธรรมและมีผู้คนทยอยเข้าร่วมมากขึ้น
“ตอนนี้สังคมเริ่มจับได้ไล่ทันแล้วว่ารัฐบาลกำลังปั่นกระแสความหวาดกลัว ปล่อยข่าวสารพัด สุดท้ายก็หลอกหลอนตัวเอง เพราะคนเหล่านี้พูดโกหกจนตัวเองเชื่อว่าเป็นความจริง” นายสุริยะใสระบุ