รัฐมนตรีกลาโหมชวนพสกนิกรร่วมเฝ้าฯ รับเสด็จในหลวง ชี้แผน 4 ขั้นล้มรัฐแค่แดงคิดไปเอง แนะสื่ออย่าใส่ใจแก๊งเผาเมืองกุข่าวปฏิวัติ ยันทหารเคลื่อนไหวแค่เตรียมสวนสนาม เมินเคลียร์ใจหัวโจก เชื่อใช้ พ.ร.บ.มั่นคงไม่สร้างปัญหา ป้องรัฐไม่ได้สร้างภาพป่วน บอกพวกชุมนุมศัตรูถาวร เย้ย “เสธ.อ้าย” ฝอยมาล้านคน คาด “ขี้ข้าทักษิณ” พูดยิงเอ็ม79 แค่ข่าวไม่ได้กรอง แย้มมีแผนใช้กองทัพ เตือนเด็กๆ เป็นทหารต้องเป็นตลอดชีวิต
วันนี้ (22 พ.ย.) ที่กระทรวงกลาโหม เมื่อเวลา 08.30 น. พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จออกมหาสมาคม ณ สีหบัญชร ในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธ.ค. 2555 ว่า ที่ผ่านมาเราได้เห็นในภาพข่าวพระองค์ท่านเสด็จออกมาต้อนรับผู้นำประเทศสหรัฐฯ และประเทศจีน ซึ่งคนไทยต่างปลื้มปีติที่เห็นพระองค์ท่านมีสุขภาพพลานามัยแข็งแรงสมบรูณ์ ซึ่งเราก็ปลื้มปีติไปด้วย และในวันที่ 5 ธันวาคมนี้ พระองค์ท่านคงจะเสด็จออกมาให้พวกเราชาวไทยได้ชื่นชมพระบารมี ในส่วนของทางทหารเองเรามีความพร้อมในพิธีถวายสัตย์ฯ ของทหารรักษาพระองค์ ซึ่งตนก็อยากเชิญชวนพสกนิกรพี่น้องประชาชนเฝ้าฯ รับเสด็จพระองค์ให้มากๆ
รมว.กลาโหมกล่าวถึงกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงออกมาระบุบถึงแผน 4 ขั้นที่จะล้มรัฐบาลว่า เป็นแผน 4 ขั้นที่ตั้งกันเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาคาดการณ์กัน ต้องไปถามเสื้อแดง ในส่วนตนไม่ทราบ ส่วนที่กลุ่มเสื้อแดงมีการกุข่าวเรื่องการปฏิวัติ ขออย่าให้สื่อไปให้ความสนใจ ถ้าไม่ดีก็ไม่ต้องไปลงข่าว สำหรับกรณีของ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำคนเสื้อแดง ออกมาระบุว่ามีทหารจาก 8 หน่วยออกมาร่วมชุมนุมด้วย ซึ่งตนได้ถามไปแล้วได้รับการยืนยันว่าไม่มี ซึ่งช่วงนี้ทหารมีการเคลื่อนไหวเพราะกำลังเตรียมพิธีสวนสนาม ถวายสัตย์ฯ เนื่องในวันเฉลิมพระชนพรรษา จึงมากันหลายหน่วยก็แค่นั้น ไม่เกี่ยวกับการปฏิวัติ
พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่มีความจำเป็นต้องไปทำความเข้าใจกับ ส.ส.ในพรรคเพื่อไทย ทางทหารมีความหนักแน่นมั่นคง เมื่อบอกว่าไม่มีก็ไม่มี ส่วนความจำเป็นที่จะต้องใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงนั้นคงต้องดูจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นฝ่ายปฏิบัติเพราะเป็นกำลังหลักที่ต้องรับผิดชอบ ซึ่งก็ต้องดูว่ามีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหน ทั้งนี้ต้องเข้าใจว่า พ.ร.บ.ความมั่นคงเป็นเพียงแค่เตรียมการไว้หากเกิดเหตุการณ์รุนแรงก็สามารถประกาศใช้ได้เลยโดยไม่ต้องเสียเวลา เหมือนเตรียมอาวุธเอาไว้ ไม่ใช้เอาไปไล่ยิงใครหากเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริงๆ ก็สามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว เพื่อความไม่ประมาท อย่างไรก็ตาม การประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงจะไม่สร้างปัญหาให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นการประกาศใช้ช่วยคราวในบ้างพื้นที่ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยมีการประกาศกฎอัยการศึกมาเป็นเดือนๆ ไม่เห็นจะมีอะไร
เมื่อถามว่า พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์การพิทักษ์สยาม ระบุว่ารัฐบาลพยายามสร้างภาพให้กลุ่มผู้ชุมนุมเกิดความรุนแรง พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า เราไม่ได้สร้างภาพ แต่มีหลายฝ่ายออกมาติติงและไม่เห็นด้วยกับการชุมนุม เพราะประเทศไทยกำลังเดินไปได้ด้วยดี ประธานาธิบดีจากหลายๆ ชาติเดินทางมาเยือนประเทศไทย ส่วนคนที่มาชุมนุมก็ให้ดูหน้าเอาเอง ถ้าพูดง่ายๆ ก็เหมือนเป็นศัตรูถาวรกันไปแล้ว ส่วนที่ พล.อ.บุญเลิศบอกว่าจะมีคนมาร่วมชุมนุมถึง 1 ล้านคนนั้น ตนไม่อยากพูดเรื่องจำนวน อยากใช้คำเดียวว่าฝอยมากกว่า เพราะคน 1 ล้านเป็นไปไม่ได้
ส่วนกรณีที่ทาง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ระบุจะมีมือที่ 3 นำอาวุธ ปืนเอ็ม79 มายิงใส่กลุ่มผู้ชุมนุมจนทำให้เกิดความขัดแย้งนั้น พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า เขาน่าจะพูดถึงงานด้านการข่าว อาจจะยังไม่กรองข่าวก็ได้ ซึ่งเป็นข่าวที่เขาได้รับมา สำหรับตนจะรับเฉพาะข่าวที่กลั่นกรองแล้วเท่านั้น เรื่องนี้ก็ต้องพิจารณาข่าวกันหน่อย แต่ข่าวทุกข่าวก็ต้องรับไว้พิจารณาแล้วนำมาคัดกรองอีกที โดยดูจากปัจจัยหลายอย่าง ซึ่งข่าวด้านความมั่นคงไม่จำเป็นต้องเหมือนกันทุกข่าว ทั้งนี้ ตนกับ ร.ต.อ.เฉลิมได้คุยกันตลอดแต่หลักการไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน
“เรารู้หมดว่าฝ่ายโน้นที่มาร่วมชุมนุมมีใครบ้าง คนเก่าๆ ทั้งนั้น ผมว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดี เพราะมีความพยายามที่จะนำเอาลูกหลานของผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยมาร่วมด้วย ไม่ใช่สิ่งที่ดีเลยถ้าเขาอยากมาก็ให้เขามาเอง ถ้าทำอย่างนี้เขาเรียกว่าเกณฑ์กันมาทางเราก็เฝ้าดูอยู่ ผมอยากขอร้องพี่อ้ายว่าอย่าทำเลยเพราะไม่มีประโยชน์มีแต่เสีย ไม่ได้ทำให้ประเทศชาติดีขึ้น” พล.อ.อ.สุกำพลกล่าว
พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า ขณะนี้การประสานงานกับ ผบ.เหล่าทัพ ได้มีการพูดคุยกันตลอดสามารถโทรศัพท์พูดคุยกันตลอด ส่วนที่กังวลกันว่ากำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่พอและต้องเตรียมกำลังทหารไว้รองรับสถานการณ์นั้น ไม่ต้องห่วงเรามีขั้นตอนดำเนินการเอาไว้แล้วแต่ไม่อยากเปิดเผยเพราะเป็นความลับ
รมว.กลาโหมยังกล่าวถึงการไปชี้แจงต่อศาลปกครองกรณีเซ็นคำสั่งปลดและเรียกคืนเบี้ยหวัด ร.ต.อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าตนไปในฐานะผู้ถูกฟ้องก็เท่านั้นซึ่งก็เรียบร้อยดี น่าพอใจ ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์จะไม่ส่งเอกสารเพิ่มเติมมาชี้แจงหรือไม่ ก็ถือว่าเป็นเรื่องของเขา ในเมื่อเขาส่งหนังสือมาขอความเป็นธรรมเราก็ให้โอกาสเขา แต่หนังสือได้มาถึงหลังจากได้เซ็นคำสั่งปลดไปแล้ว ตนก็ทำหนังสือตอบไปแล้วก็ถือว่าเราให้โอกาสแล้ว แต่ถ้าไม่ใช้เราก็ไม่ว่ากันก็ไปสู้กันด้วยหลักฐาน ตนอยากให้น้องๆ ที่เป็นทหารฟังเอาไว้ ถ้าเป็นทหารต้องเป็นทหารไปตลอดชีวิต