เลขาฯ สมช. อ้างประเมินแล้วโจรใต้บึ้มรถไฟเหตุไม่พอใจผลประชุมโอไอซีที่ไม่เป็นไปตามที่ต้องการ โวรู้หมดกลุ่มไหน ใครทำ แต่หลักฐานไปไม่ถึง รับช่วงลอยกระทง และปีใหม่อาจมีความรุนแรงมากขึ้น แย้มยังไม่ถึงเวลาประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ รอประเมินสถานการณ์ก่อน
พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ระเบิดรถไฟที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส วานนี้ว่า มีการประเมิน และเห็นว่าเป็นผลมาจากการประชุมองค์การความร่วมมืออิสลาม (โอไอซี) ที่ผ่านมา ซึ่งกลุ่มก่อการร้ายคิดว่าผลน่าจะเป็นไปในทางลบต่อรัฐบาล แต่กลับเป็นบวก ทำให้ไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ เขาจึงแสดงศักยภาพ
“ในส่วนเจ้าหน้าที่ก็เข้มงวดตลอด ไม่ได้ประมาท และเรารู้ว่ามาจากทิศไหน กลุ่มไหน ซึ่งก็คงต้องต้อสู้กันไป เรามีเบาะแสอยู่แล้ว เรารู้ว่าใครเป็นใคร แต่หลักฐานไปไม่ถึง”
ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าสถานการณ์จะรุนแรงไปถึงขั้นไหน พล.ท.ภราดร กล่าวว่า เชื่อว่าความรุนแรงมีเกิดขึ้นแน่นอน แต่ไปถึงจุดไหนยังไม่ทราบ เพียงแต่ว่าอาจจะแรงในระยะหนึ่ง โดยเฉพาะในช่วงนี้จะมีเทศกาลลอยกระทง และเทศกาลปีใหม่ ซึ่งความรุนแรงจะขนาดไหนก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และโอกาส แต่น้ำหนักที่จะมาทำในเมืองคิดว่าจะลดลง คือเขาจะดูว่าเจ้าหน้าที่เข้มงวดตรงไหน เขาก็จะไปทำจุดอื่น
อย่างไรก็ตาม ก็ยอมรับว่าช่วงสถานการณ์ลอยกระทง และปีใหม่สถานการณ์อาจจะมีความรุนแรง เราคงประมาทไม่ได้ ซึ่งก็อย่างที่บอกว่าเขาไม่พอใจกับผลประชุมโอไอซีที่ออกมา เนื่องจากเขาคาดหวังว่าการประชุมโอไอซีจะยกระดับให้เขา แต่สุดท้ายไม่ยกระดับ และกลายเป็นว่า รัฐบาลไทยยังดูแล และควบคุมสถานการณ์ได้ และประเทศสมาชิกโอไอซีก็ยังสนับสนุนแนวทางของไทยอยู่
พล.ท.ภราดร กล่าวถึงการประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงฯ ในช่วงการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามว่า ตอนนี้คงต้องรอประเมินสถานการณ์ก่อนว่าการประกาศใช้แผนกรกฎ 52 ของรัฐบาลในขณะนี้ จะจำเป็นถึงขนาดต้องประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงฯ หรือไม่ และถ้าใช้จะมีขั้นตอนอย่างไรเพื่อให้ทันต่อสถานการณ์
ผู้สื่อข่าวถามว่า เท่าที่ดูข้อมูล และมีรายการสถานการณ์ข่าว คิดว่าเหตุการณ์รุนแรงถึงขนาดต้องใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงฯ หรือไม่ เลขาฯ สมช.กล่าวว่า ปริมาณคนอาจจะพอสมควร แต่ดีกรีความรุนแรงยังไปไม่ถึง ยังคิดว่าใช้แผนกรกฎ 52 ควบคุมได้อยู่ แต่ในเรื่องของการเตรียมการต้องมีอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม บ่ายวันนี้มีการประชุม สมช.ซึ่งจะมีการพิจารณาเรื่องของการประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงฯ และเรื่องเหตุการณ์ในภาคใต้ด้วย