xs
xsm
sm
md
lg

“ยิ่งลักษณ์” เผยซาบซึ้งเข้าเฝ้าฯ “พระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2” - ย้ำนักท่องเที่ยวอังกฤษเพิ่มสูงขึ้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี (ภาพจากแฟ้ม)
นายกรัฐมนตรีปฎิบัติภารกิจภายในโรงแรมเดอะกรอสเวเนอร์เฮาส์ อังกฤษ พบปะนักธุรกิจ เผยรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณได้เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 สะท้อนความสัมพันธ์ลึกซึ้งไทย-อังกฤษ สร้างความเชื่อมั่นภาคเอกชนไทย พร้อมเดินหน้าขยายการค้า ด้าน ผอ.ททท. นำแทรเวลเอเยนต์เยี่ยมคารวะ เผยมีนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษเพิ่มขึ้นทุกปี ปัจจุบัน 5.7 แสนคน

วันนี้ (13 พ.ย.) เวลา 08.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ณ ห้องบอลรูม โรงแรมเดอะกรอสเวเนอร์เฮาส์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พบหารือกับประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน รวมทั้งนักธุรกิจไทยจากสาขาต่างๆ ที่ร่วมเดินทางไปกับคณะฯ ได้แก่ สาขาการเงินการธนาคาร อาหารและสินค้าเกษตร พลังงาน การท่องเที่ยว สินค้าดีไซน์และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ อัญมณีและเครื่องประดับ ชิ้นส่วนยานยนต์ ตลอดจนสมาคมธุรกิจไทยในสหราชอาณาจักร โดยผู้แทนภาคเอกชนไทยได้บรรยายสรุปแก่นายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับข้อมูลการดำเนินกิจการในสหราชอาณาจักร พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนความเห็นคิดเห็นเกี่ยวกับการส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยกับสหราชอาณาจักรตามรายสาขา

ในการนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวส่งเสริมการดำเนินธุรกิจไทยในราชอาณาจักร เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าและผลประกอบการซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในต่างประเทศ โดยสนับสนุนการทำงานของสมาคมธุรกิจไทยในสหราชอาณาจักร ที่จะมีบทบาทช่วยส่งเสริมธุรกิจไทย รวมถึงมุ่งช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ที่ธุรกิจไทยในสหราชอาณาจักร ตลอดจนสนับสนุนกิจกรรมอันเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของไทย สร้างความเชื่อมั่นในประเทศไทย รวมถึงประชาสัมพันธ์อาหาร สินค้า ศิลปวัฒนธรรมไทยอีกด้วย

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงความสำคัญของการเยือนสหราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการในครั้งนี้ ว่ารู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่ได้รับพระบรมราชวโรกาสเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งระหว่างไทยกับสหราชอาณาจักร โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสัมพันธ์ของราชวงศ์ไทยและสหราชอาณาจักร สำหรับการหารือกับนายกรัฐมนตรีอังกฤษจะได้หยิบยกประเด็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ในลักษณะ สแตรทิจิก ไดอะล็อก ที่จะเป็นกลไกสำคัญในการสร้างเสริมการขยายความสัมพันธ์และความร่วมมือในด้านต่างๆ ทั้งด้านเศรฐกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว รวมถึงการอำนวยความสะดวกในการขอวีซ่า สำหรับนักธุรกิจ และนักเรียนไทยด้วย

ในการนี้ นายกรัฐมนตรีจะได้ถือโอกาสนี้สร้างความเชื่อมั่นเสถียรภาพประเทศไทย และการเติบโต แผนการลงทุนของรัฐบาลในโครงสร้างพื้นฐาน และการบริหารจัดการน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ความสำคัญกับการลงทุนการสร้างความเชื่อมโยงทางบก ทั้งในประเทศ และเชื่อมต่อไปในภูมิภาค ซึ่งจะนำมาซึ่งความเจริญและการเติบโตอย่างทั่วถึง สำหรับความร่วมมือที่ใกล้ชิดกับเมียนมาร์ ไทยและเมียนมาร์ร่วมพัฒนาท่าเรือน้ำลึกทวายและมีความร่วมมือที่คืบหน้า โดยมีการจัดตั้งคณะทำงานระดับสูง เพื่อเร่งผลักดันการดำเนินโครงการดังกล่าว ซึ่งโครงการนี้จะเป็นโอกาสที่สำคัญเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและการลงทุนในภูมิภาค

ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนได้นำเสนอประเด็นที่อยู่ในความสนใจ รวมทั้งปัญหาอุปสรรคต่างๆ เช่น ข้อจำกัดในการนำเข้าอาหารไทย เพื่อที่จะได้นำไปหารือและแก้ไขในระดับรัฐบาล สมาคมธุรกิจไทยในสหราชอาณาจักร (Association of Thai Business in UK – ATBUK) อยู่ภายใต้การสนับสนุนของสถานเอกอัครราชทูต ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ณ กรุงลอนดอน นำโดยนายสุรภี กรรณสูตร ประธานสมาคม ประกอบด้วยกุล่มธุรกิจร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เกต สปา เครื่องดื่ม โรงแรม ธนาคาร สายการบิน เป็นต้น โดยหลายรายเป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จดีและมีความเข้มแข็งสามารถผลักดันประเด็นที่เป็นประโยชน์ต่อนักธุรกิจไทยโดยรวม

จากนั้น เวลา 09.30 น. ณ ห้องเบอร์ลิงตันสวีท โรงแรมเดอะกรอสเวเนอร์เฮาส์ นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายแก่ทีมประเทศไทย ซึ่งประกอบไปด้วย ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน สถานกงสุลใหญ่ 7 แห่ง สำนักงานผู้ช่วยทูตฝ่ายทหาร สำนักงานแรงงาน สำนักงานส่งเสริมการค้า สำนักงานที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจและการคลัง สำนักงานตัวแทนธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานผู้ดูแลนักเรียนไทยในอังกฤษ สำนักงานการท่องเที่ยว โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการเดินทางเยือนสหราชอาณาจักรในครั้งนี้ และแสดงถึงความสำคัญของความสัมพันธ์ที่มีต่อกันมาอย่างยาวนาน พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีมอบนโยบายการดำเนินการเชิงรุกในการสร้างเสริมความสัมพันธ์ และการขยายและเพิ่มพูนการค้า และการลงทุนกับสหราชอาณาจักร และยุโรป รวมทั้งได้รับฟังทีมประเทศไทย เกี่ยวกับการดำเนินงาน และปัญหาอุปสรรคต่างๆ โดยนายกรัฐมนตรีเสนอให้มีการแก้ปัญหาแบบองค์รวม และรัฐบาลพร้อมที่จะดำเนินงานอย่างเต็มที่ และขอให้ภาคเอกชนเสนอยุทธศาสตร์ เพื่อนำมาพิจารณาร่วมกับของรัฐบาล รวมทั้งการจัดลำดับความสำคัญของปัญหา ข้อมูล โดยขอให้ภาคเอกชนร่วมกันกับภาครัฐและถือเป็นวาระแห่งชาติ ที่จะเติบโตไปด้วยกัน

ต่อมาเวลา 10.00 น. นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นำผู้แทนท่องเที่ยวแห่งสหราชอาณาจักร เข้าเยี่ยมคารวะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยมีการหารือแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างไทยและสหราชอาณาจักร โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความขอบคุณผู้แทนท่องเที่ยวแห่งสหราชอาณาจักรสำหรับการสนับสนุนและการส่งเสริมนักท่องเที่ยวสหราชอาณาจักรเดินทางท่องเที่ยวในไทย โดยขณะนี้รัฐบาลได้เร่งดำเนินการพัฒนาสาธารณูปโภคเพื่ออำนวยความสะดวกและยกระดับการบิการด้านการท่องเที่ยวในประเทศไทย พร้อมทั้งการดูแลด้านความปลอดภัย และความรวดเร็วในด้านการให้บริการต่างๆ อีกทั้ง มีการรณรงค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวในรูปแบบต่างๆ และการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ให้ครอบคลุมพื้นที่และตอบสนองต่อกลุ่มนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น

ในโอกาสนี้ ผู้แทนท่องเที่ยวฯ ได้ย้ำถึงศักยภาพการท่องเที่ยวของไทยว่ายังเป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างกว้างขวาง นักท่องเที่ยวอังกฤษในกลุ่มต่างๆต่างสนใจเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศไทยอย่างต่อเนื่องและเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ พร้อมขอบคุณรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีที่ให้ความสนใจต่อการส่งเสริมการท่องเที่ยว และพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยนักท่องเที่ยวอย่างจริงจัง ขณะนี้ มีการเดินทางในลักษณะเครื่องบินเหมาลำ หรือชาร์เตอร์ไฟลต์ ไปท่องเที่ยวไทยมากขึ้น จึงขอให้รัฐบาลได้ดูแลและอำนวยความสะดวกในการรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ด้วย ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้รับว่ารัฐบาลเร่งพัฒนาการรองรับในด้านต่างๆ และเร่งแก้ปัญหาที่เป็นปัญหาและอุปสรรคต่อการท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ โดยปีนี้ (ม.ค.-ส.ค. 55) มีนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยแล้วเป็นจำนวน 570,000 คน ซึ่งมากเป็นอันดับหนึ่งในประเทศสมาชิกกลุ่มอียู มีการใช้จ่ายสูง และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี นอกจากนี้ยังมีชาวอังกฤษที่เข้ามาพำนักระยะยาว รวมทั้งมาซื้อและเช่าอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยจำนวนมาก ส่วนนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางไปเที่ยวสหราชอาณาจักรเฉลี่ยปีละ 1 แสนคน


กำลังโหลดความคิดเห็น