วิปรัฐบาลยืนยันกรอบการซักฟอกรัฐบาล 25-27 พ.ย. ส่วนวุฒิสภาอภิปรายทั่วไป 28 พ.ย. ยืดหยุ่นไม่ได้ เหตุนายกฯ มีภารกิจแน่น ชี้ยื่นตีความคุณสมบัติ “อภิสิทธิ์” ไม่มีผลต่อการซักฟอก บอกไม่กังวลม็อบไล่รัฐบาล ห่วงเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย รัฐบาล “สมัคร-สมชาย” วุ่นวายแน่
นายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานวิปรัฐบาล ยืนยันกรอบเวลาการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่ายังคงเป็นวันที่ 25-27 พ.ย. และในวันที่ 28 พ.ย.จะเป็นการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติของวุฒิสภา เนื่องจากการจัดสรรเวลาดังกล่าวได้มีการตรวจสอบตารางงานของรัฐบาล ดันนั้น การที่วุฒิสภาจะขอเลื่อนขึ้นมาอภิปรายก่อนวันที่ 25 พ.ย. จึงไม่สามารถดำเนินการได้ ขอให้เห็นใจฝ่ายบริหาร เนื่องจากนายกรัฐมนตรีมีภารกิจเยือนต่างประเทศ รวมถึงต้องให้การต้อนรับผู้นำประเทศต่างๆ ที่เยือนประเทศไทย แต่ยืนยันว่าตลอดการอภิปรายทั้งของฝ่ายค้านและวุฒิสภา นายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมประชุมเพื่อชี้แจงข้อกล่าวหาด้วยตัวเอง พร้อมทั้งเชื่อมั่นในเสียงสนับสนุนของรัฐบาลที่มีมากกว่า 250 เสียง แต่หากมีเสียงสนับสนุนเพิ่มเติมก็เป็นเรื่องที่ดี ทั้งนี้ยังไม่ได้มีการหารือมาตรการลงโทษสำหรับ ส.ส.ที่โหวตสวนมติพรรค
อย่างไรก็ตาม มองว่าการยื่นตีความคุณสมบัติของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรจะไม่ส่งผลกระทบการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เนื่องจากยังต้องมีขั้นตอนการตีความ ดังนั้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะสามารถดำเนินการได้ตามปกติ
ส่วนกรณีที่อาจจะมีการชุมนุมเคลื่อนไหวทั้งในและนอกสภาในช่วงเวลาดังกล่าว นายอุดมเดชยืนยันว่าไม่กังวล ซึ่งหากสถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหารที่ต้องดูแลสถานการณ์ แต่ยอมรับว่ามีความพยายามของบางฝ่ายที่เคลื่อนไหวสอดคล้องทั้งในและนอกสภาเพื่อหวังล้มรัฐบาล เช่นเดียวกับที่เคยทำในสมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ แต่หากเกิดเหตุการซ้ำรอย เชื่อว่าจะเกิดความวุ่นวายอย่างแน่นอน เพราะรัฐบาลมาด้วยความชอบธรรมตามกติกาประชาธิปไตย และมีกระบวนการตรวจสอบอยู่แล้ว
นายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานวิปรัฐบาล ยืนยันกรอบเวลาการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่ายังคงเป็นวันที่ 25-27 พ.ย. และในวันที่ 28 พ.ย.จะเป็นการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติของวุฒิสภา เนื่องจากการจัดสรรเวลาดังกล่าวได้มีการตรวจสอบตารางงานของรัฐบาล ดันนั้น การที่วุฒิสภาจะขอเลื่อนขึ้นมาอภิปรายก่อนวันที่ 25 พ.ย. จึงไม่สามารถดำเนินการได้ ขอให้เห็นใจฝ่ายบริหาร เนื่องจากนายกรัฐมนตรีมีภารกิจเยือนต่างประเทศ รวมถึงต้องให้การต้อนรับผู้นำประเทศต่างๆ ที่เยือนประเทศไทย แต่ยืนยันว่าตลอดการอภิปรายทั้งของฝ่ายค้านและวุฒิสภา นายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมประชุมเพื่อชี้แจงข้อกล่าวหาด้วยตัวเอง พร้อมทั้งเชื่อมั่นในเสียงสนับสนุนของรัฐบาลที่มีมากกว่า 250 เสียง แต่หากมีเสียงสนับสนุนเพิ่มเติมก็เป็นเรื่องที่ดี ทั้งนี้ยังไม่ได้มีการหารือมาตรการลงโทษสำหรับ ส.ส.ที่โหวตสวนมติพรรค
อย่างไรก็ตาม มองว่าการยื่นตีความคุณสมบัติของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรจะไม่ส่งผลกระทบการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เนื่องจากยังต้องมีขั้นตอนการตีความ ดังนั้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะสามารถดำเนินการได้ตามปกติ
ส่วนกรณีที่อาจจะมีการชุมนุมเคลื่อนไหวทั้งในและนอกสภาในช่วงเวลาดังกล่าว นายอุดมเดชยืนยันว่าไม่กังวล ซึ่งหากสถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหารที่ต้องดูแลสถานการณ์ แต่ยอมรับว่ามีความพยายามของบางฝ่ายที่เคลื่อนไหวสอดคล้องทั้งในและนอกสภาเพื่อหวังล้มรัฐบาล เช่นเดียวกับที่เคยทำในสมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ แต่หากเกิดเหตุการซ้ำรอย เชื่อว่าจะเกิดความวุ่นวายอย่างแน่นอน เพราะรัฐบาลมาด้วยความชอบธรรมตามกติกาประชาธิปไตย และมีกระบวนการตรวจสอบอยู่แล้ว
