“นิคม” รอประสาน รบ.เพิ่มวัน ส.ว.อภิปราย แย้มอาจกระทบวันฝ่ายค้าน เผย “ปู” ภารกิจแยะขยับยาก ปัดสภาสูงถูกลดบทบาท โวไม่ปล่อยผ่าน ตั้งธงลุยจำนำข้าวเหลวเหมือนฝ่ายค้าน
วันนี้ (5 พ.ย.) ที่รัฐสภา นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงญัตติการขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 161 ว่า ขณะนี้มีความแน่นอนแล้วว่าจะมีการอภิปรายในวันที่ 28 พ.ย.นี้ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการปิดสมัยประชุมสภาสมัยสามัญทั่วไป โดยในช่วงเช้าของวันดังกล่าวจะมีการลงมติการอภิปรายไม่ไว้วางใจของสภาผู้เแทนราษฎร หลังจากนั้นจะเป็นการประชุมของวุฒิสภาต่อในทันที โดยวุฒิสภามีเวลาอภิปรายประมาณ 12 ชั่วโมง แต่สมาชิกได้ขอเพิ่มทำให้ขณะนี้ต้องเจรจากับวิปรัฐบาลว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะขอให้มีการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 27 พ.ย. ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา ส่วนท่าทางของวิปรัฐบาลในขณะนี้ตนเห็นว่ารัฐบาลไม่มีเวลาว่างโดยเฉพาะเวลาของนายกรัฐมนตรีและเวลาการประชุมสภาผู้แทนราษฏร เพราะต้องพิจารณากฎหมายซึ่งตนก็เห็นใจและพยายามทำหน้าที่ประสานงานเพื่อกำหนดวันที่จะให้ได้เวลาเพิ่มตามที่ ส.ว.ขอมา
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจจะต้องลงมติในวันถัดไป จะทำให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจเหลือเพียงแค่ 2 วัน นายนิคมกล่าวว่า อาจจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 25-26 พ.ย. และลงมติในวันที่ 27 พ.ย. และวุฒิสภาอภิปรายต่อในทันที ส่วนกรณีที่ ส.ว.บางส่วนแสดงความไม่พอใจที่รัฐบาลให้วันอภิปรายเพียง 1 วัน ตนเห็นว่าไม่เป็นไร ซึ่งสามารถอภิปรายได้และที่ผ่านมาเราก็เจรจากับรัฐบาลทั้งการพูดคุยและการทำหนังสือเพื่อขอเปิดอภิปรายก่อนที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยเฉพาะในวันที่ 23-24 พ.ย. แต่ฝ่ายรัฐบาลก็ไม่ยอมเนื่องจากนายกรัฐมนตรีติดภารกิจ
ทั้งนี้ ยืนยันว่าวุฒิสภาไม่ได้เป็นสภาตรายาง แต่เป็นเรื่องของการที่สมาชิกมีข้อมูลและต้องการจะอภิปราย จึงต้องขอเวลาในการอภิปราย ขณะเดียวกันจะมองว่าเวทีวุฒิสภาถูกลดบทบาทลงนั้นไม่ได้ และหากมีการกำหนดวันในการอภิปรายที่ชัดเจนก็จะทำให้ประชาชนได้รับทราบทั้งของฝ่ายค้านและวุฒิสภาที่มีเป้าหมายในการอภิปรายเรื่องโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งมองว่าเป็นประเด็นที่ซ้ำกัน อย่างไรก็ตาม ส.ว.ที่จะอภิปรายมีจำนวน 60-70 คน และคาดว่าภายใน 1-2 วันนี้จะได้รับคำตอบจากวิปรัฐบาล
