xs
xsm
sm
md
lg

ร้อง “ยิ่งลักษณ์” เร่งผังเมือง 7 จังหวัด ตอ.-เยาวชนหนุนร่าง พ.ร.บ.สื่อปลอดภัย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“เครือข่ายเพื่อนตะวันออก” ยื่นหนังสือถึงนายกฯ ที่ทำเนียบรัฐบาล เร่งรัดบังคับใช้ผังเมืองรวม 7 จังหวัดภาคตะวันออก หวั่นนายทุนกว้านซื้อที่ดินทำพื้นที่เกษตรกรรมลดน้อยลง เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม-สังคม ด้านกลุ่มเครือข่ายเยาวชนสื่อสร้างสรรค์ 77 จังหวัด เครือข่ายตาสับปะรด และมูลนิธิเพื่อนเยาวชนเพื่อการพัฒนา ร้องสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.กองทุนสื่อพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ฉบับประชาชน

วันนี้ (30 ต.ค.) ที่บริเวณประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 09.00 น. กลุ่มภาคีเครือข่ายเพื่อนตะวันออกกว่า 30 คน นำโดยนายสมนึก จงมีวศิน ผู้ประสานงานภาคีเครือข่ายเพื่อนตะวันออก เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อให้ดำเนินการเร่งรัดการบังคับใช้ผังเมืองรวม จ.ปราจีนบุรี, ชลบุรี, สระแก้ว, ฉะเชิงเทรา, ระยอง, ตราด และจันทบุรี เนื่องจากความล่าช้าทำให้เกิดช่องว่างทางกฎหมายในการใช้ประโยชน์ที่ดินที่ไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของประชาชนในพื้นที่ อีกทั้งทำให้เกิดปัญหาความเดือดร้อนขึ้นในพื้นที่ เช่น การกว้านซื้อที่ดินเพื่อการพัฒนาให้เป็นนิคมอุตสาหกรรม โรงงาน การสร้างท่าเรือ โรงไฟฟ้าชีวมวล โรงไฟฟ้าถ่านหิน และเกิดฟาร์มปศุสัตว์ขนาดใหญ่ในพื้นที่ต้นน้ำและพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นเขตเกษตรกรรมและเขตชุมชนตามแบบผังเมืองใหม่ซึ่งยังไม่ได้รับการประกาศใช้

ทั้งนี้ หากปล่อยให้มีการเข้ามารุกที่ดินในเขตชุมชนหรือพื้นที่เกษตรแล้วจะให้มีการประกาศผังเมืองตามมาในภายหลังก็เป็นไปไม่ได้ที่จะให้กลุ่มเหล่านี้ออกไปได้ และนำไปสู่การแก้ผังเมือง พื้นที่สีเขียวก็จะลดน้อยลง ทุกวันนี้ก็มีคนหน้าใหม่ๆ เข้ามาซื้อที่ดินอยู่แล้ว สุดท้ายก็จะเกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมและปัญหาสังคมตามมาอีกในภายหลัง เศรษฐกิจชุมชนก็จะล่มสลาย ซึ่งผังเมืองรวมของ จ.ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา และจันทบุรีนั้นเหลือเพียงรอให้ รมว.มหาดไทยลงนามในกฎกระทรวงเพื่อประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาเท่านั้น จึงขอให้เร่งรัดและประกาศบังคับใช้ผังเมืองรวมของ 3 จังหวัดให้เป็นตัวอย่างในการเอาจริงเอาจังปกป้องสิทธิการใช้ประโยชน์ที่ดิน และเร่งรัดให้ขั้นตอนการประกาศใช้ผังเมืองรวมของจังหวัดอื่นๆ โดยเร็วที่สุดด้วย หากภายใน 30 พ.ย.ยังไม่มีการประกาศใช้ผังเมืองรวมใน จ.ปราจีนบุรี, ฉะเชิงเทรา และจันทบุรี และไม่มีการเร่งรัดอย่างเป็นรูปธรรมของผังเมืองใน จ.สระแก้ว, ระยอง, ตราดและชลบุรี โดยจะยึดถือเอกสารที่เป็นลายลักษณ์อักษรจากนายกฯ อย่างเป็นทางการ ทางภาคีเครือข่ายเพื่อนตะวันออกก็จะมีการเคลื่อนไหวอย่างเข้มข้นต่อไป

ทั้งนี้ นายพันธุ์ศักดิ์ เจริญ ผู้อำนวยการสำนักร้องเรียนเรื่องราวร้องทุกข์ได้เป็นตัวแทนรับหนังสือร้องเรียนดังกล่าว โดยระบุว่า ทางปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีจะเร่งนำเรื่องกราบเรียนนายกฯ ภายในวันนี้ และเบื้องต้นขั้นตอนอยู่ที่กระทรวงมหาดไทยจึงจะนำเรื่องไปยัง รมว.มหาไทย อย่างไรก็ตาม ปัญหาผังเมืองรวมนั้นกรมโยธาธิการและผังเมืองทราบเรื่องนี้ดีและอยู่ระหว่างการประมวลพิจารณารายละเอียด ข้อเท็จจริงต่างๆ และได้เร่งดำเนินการแล้ว ทั้งนี้จะมีหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการไปยังผู้ที่ร้องเรียนภายใน 7 วันเกี่ยวกับการดำเนินการต่างๆ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง และอยู่ในขั้นตอนใด

ต่อมากลุ่มเครือข่ายเยาวชนสื่อสร้างสรรค์ 77 จังหวัด เครือข่ายตาสับปะรด และมูลนิธิเพื่อนเยาวชนเพื่อการพัฒนากว่า 40 คนรวมตัวกันเพื่อยื่นหนังสือถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพื่อเรียกร้องให้มีการสนับสนุนร่าง พ.ร.บ. กองทุนสื่อพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ฉบับประชาชน โดยนายอนุศาสน์ เพ็ชรสุข ตัวแทนชมรมวิทยุเด็ก เยาวชนและครอบครัว กล่าวว่า ทางเครือข่ายเยาวชนฯ ได้ร่วมกับภาคประชาชน 77 จังหวัดทั่วประเทศในการลงนามสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.กองทุนพัฒนาสื่อฯ ที่เป็นร่าง พ.ร.บ.สำคัญในการยกระดับคุณภาพสื่อเพื่อสร้างการเรียนรู้อย่างยั่งยืนแก่เด็กให้มีความเท่าทันสื่อ โดยร่าง พ.ร.บ.กองทุนสื่อฯ ได้ผ่านขั้นตอนการรวบรวมรายชื่อเพื่อเสนอกฎหมายต่อประธานรัฐสภา และผ่านขั้นตอนการตรวจสอบรายชื่อและหลักฐานตามกฎหมายจากส่วนจังหวัดต่างๆ แล้ว

ทั้งนี้ เพื่อให้ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวดำเนินการไปตามกระบวนการเสนอต่อรัฐสภาเพื่อบรรจุวาระในการพิจารณาร่วมกับร่างของกระทรวงวัฒนธรรมที่เสนอไปก่อนหน้านี้แล้ว จึงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเร่งลงนามร่าง พ.ร.บ.กองทุนสื่อฯ เพื่อนำเข้าประกอบบรรจุวาระการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวาระเร่งด่วน นอกจากนี้เสนอให้นายกรัฐมนตรีสนับสนุนประเด็นเนื้อหาในร่างฉบับประชาชนที่เน้นกระบวนการมีส่วนร่วมของเยาวชน ประชาชนในการยกร่าง พ.ร.บ.กองทุนสื่อฯ และมีเนื้อหาในการส่งเสริมพัฒนาสื่อเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ สร้างความเท่าทันและการมีส่วนร่วมในการบริการจัดการภาคประชาชน อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะมีร่าง พ.ร.บ.ของกระทรวงวัฒนธรรมอยู่แล้ว แต่ก็เชื่อว่าการเร่ง พ.ร.บ.ของประชาชนจะสร้างโอกาสในการเข้าถึงของคนในท้องถิ่นง่ายกว่า อีกทั้งสามารถบริหารงานได้ง่ายขึ้น เพราะประชาชนอยู่ในพื้นที่ทราบปัญหาที่เกิดขึ้นในท้องถิ่นเป็นอย่างดี


กำลังโหลดความคิดเห็น