ประธาน กกต.พร้อมตรวจสอบคุณสมบัติ “ยงยุทธ” เผยอาจต้องแยกตั้ง 2 คณะ สอบการขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี และขาดคุณสมบัติการเป็นสมาชิกและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และนายทะเบียนพรรคการเมือง กล่าวถึงกรณีมีผู้ยื่นคำร้องให้ กกต.ตรวจสอบคุณสมบัติความเป็น ส.ส.และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ของนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ว่าต้องมีการไต่สวนข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายก่อน โดยเรื่องไหนเป็นอำนาจของ กกต.ก็ให้เข้าที่ประชุม กกต.เลย แต่ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับพรรคการเมือง การเป็นสมาชิกพรรคและหัวหน้าพรรคของนายยงยุทธ ที่ต้องการความเห็นของนายทะเบียนพรรคการเมืองๆ ก็จะพิจารณาว่าจำเป็นต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบหรือไม่ ซึ่งทั้งหมดก็จะดำเนินการตรวจสอบให้เร็วที่สุด หากไม่ได้กำหนดเวลาก็ต้องทำภายใน 30 วัน แต่ถ้ากำหนดเวลา ก็สามารถทำให้เร็วกว่า 30 ได้
โดยส่วนที่เกี่ยวกับ กกต.ยังไม่มีการเสนอเรื่องเข้าที่ประชุม กกต. ขณะที่ที่เกี่ยวข้องกับนายทะเบียนพรรคการเมืองก็ยังไม่มีการเสนอเรื่องขึ้นมา อย่างไรก็ตาม หากนายทะเบียนพรรคการเมืองมีความเห็นอย่างไร ก็ต้องนำเข้าที่ประชุม กกต.ในฐานะที่ กกต.เป็นผู้ควบคุมนายทะเบียนพรรคการเมืองตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วางแนวปฏิบัติไว้
ด้าน นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต.กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า คำร้องในเรื่องนี้มีทั้งสิ้น 3 คำร้อง โดยสำนักงานได้มอบให้ด้านกิจการที่เกี่ยวข้องคือด้านกิจการสืบสวนสอบสวน และด้านกิจการพรรคการเมือง ไปประมวลเรื่องและจัดทำข้อมูล เพราะมีการร้องเรื่องคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี การเป็น ส.ส. การเป็นสมาชิกพรรค และการเป็นหัวหน้าพรรค หากแล้วเสร็จก็จะมีการเสนอต่อ กกต.พิจารณาว่า ตกลงแล้วจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการไต่สวนในส่วน กกต. และของนายทะเบียนพรรคการเมือง หรือจะตั้งคณะกรรมการไต่สวนรวมเป็นคณะเดียว แต่เบื้องต้นคิดว่าอาจจะต้องตั้งแยกกัน
ทั้งนี้มีรายงานว่า กรณีดังกล่าวได้มีการหารือร่วมกันของฝ่ายปฏิบัติด้านกิจการสืบสวนสอบสวน และด้านกิจการพรรคการเมือง โดยเห็นว่าตามคำร้องที่ร้องเรื่องการขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี และส.ส. อยู่ในความรับผิดชอบของด้านกิจการสืบสวนสอบสวนที่ต้องเสนอต่อที่ประชุม กกต.เพื่อตั้งคณะกรรมการสอบสวน ส่วนที่ร้องเรื่องการขาดคุณสมบัติการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยและการเป็นหัวหน้าพรรคการเมือง อยู่ในความรับผิดชอบของด้านกิจการพรรคการเมือง ซึ่งต้องเสนอให้นายทะเบียนพรรคการเมืองตั้งคณะกรรมการขึ้นไต่สวน คาดว่าแต่ละด้านกิจการจะได้มีการทำเรื่องเสนอต่อที่ประชุม กกต. และนายทะเบียนพรรคเมือง เร็วๆ นี้