ผอ.พรรคเพื่อไทยเขินถูกติดโผ มท.1 แทน “ยงยุทธ” บอกแล้วแต่นายกฯ ออกตัวแค่กองหลัง อย่าเพิ่งเอาเก้าอี้มาให้ ลั่นไม่มีการวิ่งเต้น ไม่เชื่อนายกฯ ขู่ทิ้งไพ่ลาออกถ้าถูกกดดัน ด้าน รมว.ไอซีที ปัดพรรคเตรียมมอบเก้าอี้ให้ “สุดารัตน์” ถ้าพรรคไม่ส่งชิงผู้ว่าฯ กทม. บอกแค่จินตนาการไปเอง ส่วนความพร้อมชิงผู้ว่าฯ กทม.เผยเร่งสร้างคะแนนนิยม ยังไม่กำหนดตัวบุคคล
วันนี้ (30 ก.ย.) ระหว่างที่พรรคเพื่อไทยจัดการสัมมนา ส.ส. ส.ก. และส.ข.พรรคเพื่อไทย โซน กทม.ฝั่งตะวันออก ที่โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท บีช ชะอำ จ.เพชรบุรี นายภูมิธรรม เวชยชัย ผู้อำนวยการพรรคเพื่อไทยให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีชื่อว่าจะเข้ามารับตำแหน่ง รมว.มหาดไทย แทนนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ที่ลาออกจากตำแหน่งก่อนหน้านี้ว่า ทั้งหมดขึ้นอยู่กับนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนอะไร นายกรัฐมนตรีก็ระบุแล้วว่าการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ดังนั้นตอนนี้จึงยังไม่จำเป็นที่จะต้องปรับ ครม. และรัฐมนตรีทุกคนก็ยังทำงานได้ดี ส่วนตัวเป็นแค่กองหลังคอยสนับสนุนการทำงานของพรรคเท่านั้น อย่าเพิ่งเอาตำแหน่งมาอะไรมาให้ตนเลย
ทั้งนี้ ยืนยันว่าภายในพรรคไม่มีกระแสกดดันจากกลุ่มต่างๆ หรือวิ่งเต้นเพื่อต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี ทุกคนทำงานตามหน้าที่ได้รับมอบหมาย ไม่มีความขัดแย้งในพรรคเรื่องการปรับ ครม. เรายังมีเอกภาพในพรรคอยู่ ส่วนคนจากแดนไกลก็ไม่มีส่วนร่วมในการปรับ ครม. อยู่ที่นายกรัฐมนตรีตัดสินใจคนเดียว ส่วนที่มีรายงานข่าวว่าอดีตรัฐมนตรีบางคนก่อหวอดเพื่อให้มีการปรับครม.นั้น คิดว่ามีแต่สื่อที่ตื่นเต้นกันไปเอง ในพรรคยังไม่มีการพูดคุยการปรับ ครม.
เมื่อถามว่า หากยืดเวลาปรับ ครม.ออกไป การวิ่งเต้นต่อรองตำแหน่งของกลุ่มต่างๆ รวมถึงตามข่าวที่มีบ้านเลขที่ 111 อยู่ด้วยจะเป็นปัญหาให้นายกรัฐมนตรีทำงานลำบากขึ้นหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่มีการวิ่งเต้นใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ขณะนี้ก็ช่วยงานพรรคอยู่แล้ว อะไรที่ทำให้ดีขึ้นได้ทุกคนก็ช่วยกัน แต่ส่วนใหญ่คนที่ถูกนำมาพาดหัวข่าวไม่ได้เป็นหรอก สบายใจได้ เมื่อถามว่าโดยสถานการณ์จำเป็นต้องปรับ ครม.เร็วขึ้นเพื่อรักษาเสถียรภาพของรัฐบาลหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า เป็นดุลพินิจของนายกรัฐมนตรี เมื่อถามว่ามีรายงานข่าวว่านายกรัฐมนตรีถูกกดดันในการทำงานมากๆ มักจะขู่ทิ้งไพ่ใบสุดท้ายว่าจะลาออกจากตำแหน่ง นายภูมิธรรมกล่าวว่านายกรัฐมนตรีไม่ได้เล่นไพ่ และยืนยันว่านายกรัฐมนตรียังมีความพร้อมในการทำงานอย่างเต็มที่
เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์จะยื่นตีความคุณสมบัติการเป็น ส.ส.ของนายยงยุทธ พรรคเพื่อไทยต้องเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคเพื่อตัดปัญหาที่จะตามมาด้วยหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า เรื่องนี้พรรคเพื่อไทยมีความเป็นห่วง อยากขอให้พรรคประชาธิปัตย์ ระวังการแสดงบทบาทที่มักใช้ประเด็นปัญหาแต่ละเรื่องมาเป็นประเด็นการเมือง เพราะเกรงจะกระทบต่อการบริหารประเทศ ขอให้เล่นการเมืองให้น้อยๆ ลงแล้วร่วมมือกันทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้าจะดีกว่า เมื่อถามต่อว่าพรรคประชาธิปัตย์พยายามขยายผลในเรื่องการตีความเพื่อให้ยุบพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราไม่ตกใจ เพราะถูกยุบจนชินแล้ว
ด้าน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวถึงกระแสข่าวที่ว่าหากพรรคไม่ส่งคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตประธานภาค กทม.พรรคไทยรักไทย เป็นผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ก็จะมอบตำแหน่งรัฐมนตรีช่วย (รมช.) 1 ตำแหน่งให้ภาค กทม.แทนนั้น ไม่เป็นความจริง พรรคเพื่อไทยไม่มีกลุ่มก๊วน เป็นเรื่องที่พูดหรือจินตนาการไปเองเท่านั้น และพรรคไม่มีการแต่งตั้งรัฐมนตรีโดยยึดระบบโควตา เป็นการตัดสินใจของผู้บริหารระดับสูง การปรับเปลี่ยนนั้นสามารถทำได้ตามความเหมาะสม ขึ้นอยู่กับผู้บริหารของพรรคที่จะมองว่าใครที่เหมาะสมในสถานการณ์การเมืองขณะนั้น
น.อ.อนุดิษฐ์ ในฐานะหัวหน้าทีม กทม.ฝั่งตะวันออก ยังกล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่าราชการ กทม.ว่า หากมองคะแนนพื้นฐานใน กทม.ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์ถือว่า ไม่ค่อยแตกต่างกันมากนัก หากเทียบกับคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ใน กทม. ในการเลือกตั้งวันที่ 3 ก.ค. 53 พรรคเพื่อไทยตามพรรคประชาธิปัตย์อยู่แค่ 2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ดังนั้น ถ้าจะทำให้พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ก็ต้องเร่งสร้างความนิยม ความพึงพอใจให้คน กทม.มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการพูดถึงตัวผู้สมัครที่พรรคจะส่งชิงผู้ว่าฯ กทม. ขณะนี้กำลังเน้นเรื่องนโยบายเป็นหลัก โดยนโยบายภาพรวมเสร็จหมดแล้ว อยู่ระหว่างสรุปปัญหาแต่ละพื้นที่เพื่อนำมาสรุปเป็นนโยบายเฉพาะแต่ละพื้นที่ใน กทม.จะได้มีนโยบายครบถ้วนทุกพื้นที่ เมื่อได้นโยบายชัดเจนแล้วจะพิจารณาตัวผู้สมัครตามมา ส่วนกรณีโซน กทม.ฝั่งตะวันออก มีท่าทีสนับสนุน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตประธานภาค กทม.เป็นผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.นั้น ขณะนี้พรรคยังไม่ให้ความสำคัญเรื่องตัวบุคคล ต้องไปกำหนดนโนบายความต้องการของประชาชนก่อน เชื่อว่าพรรคมีวิธีคัดเลือกผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ที่ต้องเป็นคนดีที่สุด
