เกาะกระแส
00 ดูแนวโน้มแล้วกระแสกดดันเรื่องมาตรฐานจริยธรรมของ ยงยุทธ วิชัยดิษฐ หลังจากถูก ปปช.ชี้มูลความผิดกรณีทุจริตที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ และต่อมาถูก อ.ก.พ.กระทรวงมหาดไทยลงมติให้ไล่ออก แม้ว่ามติดังกล่าวของ อ.ก.พ.จะดูเหมือนมีวาระซ่อนเร้นเพื่อช่วยเหลือให้เขาได้ใช้แง่มุมทาง กม.ตาม พ.ร.บ.ล้างมลทินปี 2550 แต่ถึงอย่างไรประเด็นสำคัญก็คือ ยงยุทธ มีความผิดร้ายแรง จนต้องถูกไล่ออก คำถามก็คือ หากคนที่กระทำความผิดร้ายแรงแบบนี้ยังสมควรที่จะเป็นรมต.เป็นรองนายกฯได้อีกหรือ ไม่ต้องใช้ต่อมสามัญสำนึกที่ลึกซึ้งอะไรมากนักก็น่าจะเป็นคำตอบได้แล้ว
00 แต่สิ่งที่คนในรัฐบาลพรรคเพื่อไทย และกลไกในกระทรวงมหาดไทยกำลังสุมหัวกันวุ่นวายอยู่ก็คือพยายามใช้ข้ออ้างแบบศรีธนญชัยใช้ช่องทางกม.เพื่อให้สามารถ ยงยุทธ กอดเก้าอี้ต่อไปได้ โดยอาศัยกม. “ล้างมลทิน” เอาละยังไม่ต้องมาเถียงกันเรื่องแง่มุมที่ว่าได้รับโทษทั้งหมดหรือ “บางส่วน” ไปแล้วหรือยัง แต่ที่ต้องถาม ยงยุทธ รวมไปถึงคนของพรรคเพื่อไทย ยัน นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่า จริยธรรมและ “ยางอาย” นั้นมีหรือไม่ ก็ในเมื่อถูกชี้ว่าทำผิด และถูกไล่ออกแบบนี้แล้ว “ยังด้าน” กันไม่บันยะบันยังไม่เกรงใจใครเลยหรือ หือ !!
00 นี่ยังไม่นับเรื่องผลกระทบเรื่องที่อาจมีความผิด หากทำหน้าที่เป็นนายกฯรักษาการนั่งหัวโต๊ะประชุมครม.แล้วอนุมัติแต่งตั้งอะไรสักอย่าง มันก็จะยุ่ง เป็นการดันทุรัง ทั้งที่มีคนเขาเตือนแล้วว่าไม่ถูกต้อง เดี๋ยวมันก็เหมือนกับกรณีที่ไปรับรองการซื้อขายที่ดินธรณีสงฆ์แปลงเป็นสนามกอล์ฟที่กลายเป็นปัญหาทุกวันนี้ไง ไม่เข็ดหรือไง แต่นั่นเป็นเรื่องความผิดส่วนตัว แต่ขณะเดียวกันมันดันไปเชื่อมโยงกับเรื่องส่วนรวม หวังว่าคงคิดได้บ้างนะ อย่าหน้ามืดจน “เสียสุนัข” ตอนแก่มากไปกว่านี้เลย อย่างไรก็ดีไม่น่าเชื่อก็คือกรณีดังกล่าวได้ก่อกระแสการต่อต้านมากขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุด “ภาคีต่อต้านคอรัปชั่น” เริ่มออกโรงกันแล้ว ดังนั้นถ้าคิดว่าไม่มีใครทำอะไรได้ก็ให้เดินหน้าต่อ อย่าถอยกลางคันก็แล้วกัน
00 กลายเป็น “คู่หู” ลูกน้องลูกพี่กันถูกคู่จริงๆสำหรับ คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง กับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เพราะที่ผ่านมามีการรันตีรับลูกส่งลูกกันได้อย่างเหมาะเจาะ และพอมีข่าวถูกเด้งพ้น บชน.คนที่กังวลมากพอๆกับเจ้าตัวก็น่าจะเป็น “เหลิม” นี่แหละ เพราะตราบใดที่ยังมี “แจ๊ส” เมื่อนั้นเหลิมก็ยังมีเครื่องมือให้แอ็กอาร์ตได้เต็มที่ ถึงขนาดต้องพกพากระเตงไป “ขอความกรุณา” กราบเท้า นักโทษ ทักษิณ ชินวัตร ถึงสิงคโปร์ แบบนี้ถ้ายังใจดำคิดจะเด้งอีกละก็ถือว่าใจดำเกินไปละ
00 สำหรับวาระสิงคโปร์ ข่าวออกมาอาจมีแต่คำถามเรื่องคำรณวิทย์จะอยู่หรือจะไป ลืมไปว่างานนี้มีความสำคัญสำหรับ “เหลิม บางบอน” ด้วย เพราะจะมีการปรับครม.อีกไม่นาน ยังไงขออย่าให้ตกขบวน หลุดจากวงโคจรเป็นอันขาด แต่ก็น่าหนักใจเรื่อง พล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ ดามาพงศ์ จะมาทับไลน์นี่สิแก้ไม่ตก ว่ามั๊ย !!