รองโฆษก ปชป. ยื่นหนังสือผู้ตรวจการฯ สอบจริยธรรม “นายกฯ ยิ่งลักษณ์” ต้นตอ “ไวต์ลาย” เป้าหมายการส่งออก พร้อมให้สอบแทรกแซงสื่อเหตุปลดรายการ “นิวส์แอนด์ทอล์ก” หลังเชิญฝ่ายค้านวิจารณ์ผลงาน 1 ปีรัฐบาล
วันนี้ (18 ก.ย.) น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้เข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายรักษเกชา แฉ่ฉาย โฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ตรวจสอบการทำผิดจริยธรรม และรัฐธรรมนูญของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หลังจากพบว่าเป็นผู้นำร่องในการพูดโกหกเรื่องเป้าหมายการส่งออก ก่อนนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง และกรณีการปลดรายการ news & talk ออกจากผังรายการของสถานีโทรทัศน์ช่อง NBT ภาคดาวเทียม
น.ส.มัลลิกากล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลกรณีที่นายกิตติรัตน์ออกมาให้สัมภาษณ์ยอมรับว่าต้องโกหกเรื่องเป้าตัวเลขการส่งออกเพื่อให้นักลงทุนเกิดความน่าเชื่อถือนั้น พบว่าข้อเท็จจริงแล้วการพูดเรื่องเป้าหมายตัวเลขการส่งออกดังกล่าวมาจากนายกรัฐมนตรีซึ่งได้เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการด้านการส่งออกเพื่อผลักดันการส่งออก ที่มีกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการต่างประเทศเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ซึ่งมีการเชิญนักธุรกิจภาคเอกชนเข้าร่วมประชุมเป็นจำนวนมาก
โดยนายกฯ ได้ยืนยันด้วยถ้อยคำว่า “รัฐบาลฝาก รมว.พาณิชย์ ในการลงไปดูถึงแผนปฏิบัติ เข้าใจกันจนเป็นเนื้อเดียวกัน เพราะเป้าหมายส่งออกในวันนี้ที่ตั้งไว้ 15% ยังเชื่อมั่นว่าถ้าทำงานด้วยกัน ปรับวิธีการ ปรับเป้าหมายก็จะประสบความสำเร็จ” จากนั้นยังพบว่าในวันที่ 7 ก.ค. นายกฯ ยังได้พูดถ้อยคำดังกล่าวอีกครั้งในรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชนด้วย ซึ่งการพูดประมาณการตัวเลขการส่งออกดังกล่าวของนายกฯไม่เพียงผิดวินัยการเงินการคลังอย่างร้ายแรง แต่ยังถือเป็นภัยต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ผิดหลักธรรมาภิบาล และจริยธรรมผู้นำที่ผู้นำประเทศทั่วโลกเขาไม่ทำกัน
“มีข้อมูลว่า ตัวเลขเป้าหมายการส่งออกที่แท้จริงที่มีการตั้งไว้ไม่เกินร้อยละ 6 แต่รัฐบาลกลับโกหกสีขาวว่าเป้าตัวเลขการส่งออกอยู่ที่ร้อยละ 15 ทำให้นักลงทุนหลงเชื่อเพิ่มกำลังการผลิต เพิ่มเครื่องจักร สุดท้ายก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่รัฐบาลบอกส่งผลให้เกิดความเสียหายหลายแสนล้าน” น.ส.มัลลิกากล่าวพร้อมกับเปิดคลิปเสียงของนายกรัฐมนตรีที่พูดในระหว่างเป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการด้านการส่งออกเพื่อผลักดันการส่งออก และที่พูดในรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน
ส่วนกรณีการปลดรายการ news & talk ออกจากผังรายการของสถานีโทรทัศน์ช่อง NBT ภาคดาวเทียมนั้น น.ส.มัลลิกากล่าวว่า เมื่อวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมาตนได้รับเชิญไปพูดคุยในรายการดังกล่าวที่เป็นรายการสดออกอากาศเวลา 17.00 น. ในหัวข้อ “1 ปี กับรัฐบาลยิ่งลักษณ์..ประชาชนได้อะไร” โดยในรายการตนได้นำเสนอข้อมูลการโกหกเรื่องเป้าตัวเลขการส่งออกของนายกรัฐมนตรี และนายกิตติรัตน์ แต่เมื่อจบรายการก็ทราบว่า ในช่วงที่ 3 ของรายการซึ่งเริ่มตั้งแต่เวลา 17.40 น.ถูกตัดกลางอากาศ และต่อมาก็ทราบจากผู้ผลิตว่ารายการดังกล่าวถูกปลดออกจากผังรายการด้วยเหตุที่ว่า เพราะมีการเชิญฝ่ายค้านไปออกรายการในครั้งนั้น
“การแทรกแซงสื่อลักษณะนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่มากของสื่อมวลชน และยังเป็นความเสียหายทางธุรกิจของบริษัทที่ได้รับสัมปทานจากทางสถานีโทรทัศน์ช่อง NBT รวมทั้งขัดรัฐธรรมนูญ และธรรมมาภิบาลและจริยธรรมของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง” น.ส.มัลลิกากล่าว และว่า ทั้ง 2 เรื่องจึงขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและส่งให้ ป.ป.ช.ดำเนินการถอดถอนออกจากตำแหน่งต่อไป
ด้าน นายรักษเกชากล่าวว่า เป็นการร้องเรื่องจริยธรรมทางสำนักงานก็จะเร่งสรุปเสนอต่อผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณา
ทั้งนี้ น.ส.มัลลิกา ยังกล่าวว่า ประสงค์จะยื่นให้ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ตรวจสอบกรณีนายกรัฐมนตรีไปปฏิบัติภารกิจส่วนตัวที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์เพิ่มเติมในประเด็นผลประโยชน์ทับซ้อน เนื่องจากพบว่ามีนักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ได้รับประโยชน์จากการพูดคุยกับนายกฯ ในวันดังกล่าว ซึ่งนายรักษเกชาชี้แจงว่า กรณีนี้ผู้ตรวจการแผ่นดินได้สรุปไปแล้วบนพื้นฐานข้อมูลที่มีอยู่ว่ายังไม่พบว่ามีเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนมาเกี่ยวข้อง แต่หากมีข้อมูลใหม่ที่เพิ่มเติมก็สามารถยื่นร้องให้ผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบได้