ผลประชุมคณะกรรมการสรรหา ส.ว.พบ 1 องค์กรก่อตั้งไม่ถึง 3 ปี ส่วนการตรวจสอบประวัติรายบุคคลคืบหน้าร้อยละ 75 พบบางหน่วยงานรายงานตรวจสอบไม่ชัดเจน ด้านผู้สมัคร 11 คนที่เป็นอดีต ส.ว.ให้ประธาน กกต.ศึกษาว่าเข้าข่ายลักษณะต้องห้ามหรือไม่
วันนี้ (7 ก.ย.) นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ภาควิชาชีพครั้งที่ 2 แทนนายสัก กอแสงเรือง อดีต ส.ว.ที่ถูกศาลฎีกาเพิกถอนการสรรหา ซึ่งมีนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ เป็นประธานว่า ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าในการตรวจสอบคุณสมบัติของ 35 องค์กรที่เสนอชื่อผู้เข้ารับการสรรหา ซึ่งผลการตรวจสอบที่มีการรายงานเข้ามา 31 องค์กรแล้วพบว่ามี 1 องค์กรที่มีปัญหาว่าก่อตั้งมายังไม่ถึง 3 ปีที่กฎหมายกำหนดให้เป็นองค์กรที่มีสิทธิเสนอชื่อผู้สมัคร โดย กกต.ก็จะได้เสนอให้คณะกรรมการสรรหาพิจารณาต่อไป
ส่วนการตรวจสอบประวัติบุคคลที่ลงสมัครทั้ง 35 คน ซึ่ง กกต.ได้ส่งรายชื่อให้กับ 24 หน่วยงานพิจารณา ขณะนี้ได้ส่งข้อมูลบุคคลกลับมาแล้วคิดเป็นร้อยละ 75 โดยยังมีปัญหาว่าบางหน่วยงานรายงานผลการตรวจสอบไม่ชัดเจน ทางอนุกรรมการจึงได้ขอให้มีการตรวจสอบเพิ่มเติม รวมถึงกรณีเรื่องการเสียสิทธิจากการไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ซึ่งจะมีการตรวจสอบรอบสองกับ 4 หน่วยงาน คือ กกต.จังหวัด กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย กกต.ประจำกรุงเทพมหานคร (กทม.) และกรุงเทพมหานคร เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วนชัดเจนก่อนที่จะนำเสนอคณะกรรมการสรรหา
ทั้งนี้ คณะกรรมการสรรหายังไม่ได้ลงลึกเป็นรายบุคคล โดยให้ประธาน กกต.ซึ่งเป็นประธานอนุกรรมการตรวจสอบประวัติผู้เข้ารับการสรรหาไปศึกษาว่าผู้สมัคร 11 คนที่เคยเป็นอดีต ส.ว.นั้นการลงสมัครในครั้งนี้เข้าข่ายลักษณะต้องห้ามของการเป็น ส.ว.หรือไม่ ซึ่งคณะกรรมการสรรหาได้นัดประชุมครั้งต่อไปในสัปดาห์หน้า