xs
xsm
sm
md
lg

“ตั้ว-ศรัณยู” ตอบโจทย์ ลั่นไม่เสียใจร่วมสู้กับ พธม. แม้กระทบอาชีพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 ตั้ว-ศรัณยู วงษ์กระจ่าง  ตอบโจทย์ทางสถานีโทรทัศน์ ThaiPBS
“ตั้ว-ศรัณยู วงษ์กระจ่าง” เผยร่วมต่อสู้กับ พธม.เพราะศรัทธาในสิ่งที่ทำ ไม่ได้อคติต่อ รบ.-เสื้อแดง ลั่นหากย้อนเวลาได้ก็ไม่คิดเปลี่ยนใจแม้จะส่งผลกระทบต่ออาชีพก็ตาม ยันเป็นแกนนำไม่มีเงินเดือน ไม่หวังก้าวเข้าสู่เวทีการเมือง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (5 ก.ย.) ตั้ว-ศรัณยู วงษ์กระจ่าง นักแสดง พิธีกร และแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รุ่นที่ 2 ตอบโจทย์ทางสถานีโทรทัศน์ ThaiPBS ถึงสาเหตุเข้าร่วมต่อสู้กับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่า ช่วงแรกตนเข้าร่วมในฐานะเป็นประชาชนธรรมดาคนหนึ่งที่มีความรู้สึกนึกคิดเหมือนกับผู้ที่ชุมนุม แต่เมื่อมีคนเห็นตนเข้าร่วมต่อสู้ด้วยก็ชวนขึ้นเวที ประกอบกับคิดว่าเมื่อร่วมชุมนุมแล้วจะผลักให้คนเหล่านั้นออกหน้า ขณะที่ตัวเองจะหลบอยู่ข้างหลังมันก็ไม่ใช่ ก็เลยขึ้นเวทีให้กำลังใจผู้ชุมนุม

จนเหตุการณ์เลยเถิดรวมตัวอีกครั้งหลังรัฐประหาร ด้วยการชุมนุมที่ยาวนาน คนเหล่านั้นเหนื่อยยากกับการต่อสู้ ชุมนุมยาวนาน โดนระเบิด M79 ทำให้ผู้ชุมนุมเกิดอารมณ์ แค้นบ้าง อยากใช้กำลังบ้าง แต่ด้วยความที่ตนสื่อสารกับผู้ชุมนุมได้ ก็คอยเตือนให้สงบ อหิงสา จากตรงนี้เองก็เลยได้รับมอบหมายให้เป็นแกนนำรุ่น 2

“วันที่อยู่บนถนน ผมเข้าใจว่าทุกคนเป็นประชาชน ผมไม่ได้แยกว่าเป็นดารา ดังนั้นจึงไม่ได้มีการประเมินว่าทำอย่างนี้แล้วจะสุ่มเสี่ยงต่ออาชีพ คิดเพียงว่าพี่น้องอยู่ตรงนี้ เขาเสียสละ เราควรอยู่กับเขา ไม่ได้หวังการเคลื่อนไหวตรงนั้นเพื่อนำไปสู่ผลใดๆ ในภายภาคหน้า”

นายศรัณยูกล่าวว่า ความเป็นพันธมิตรฯ ไม่ใช่องค์กรหลักที่มีผลประโยชน์ หรือสถาบันที่พยายามจะช่วงชิงอำนาจใดๆ มีประเด็นเดียวคือ ประเด็นทางสังคม ซึ่งเราเห็นว่ามันไม่ถูกต้อง ทำให้คนที่มีความคิดเดียวกันก็จะมารวมกัน และหลังจากจบจากชุมนุมแล้วทุกคนก็กลับไปสู่อาชีพเดิม ยอมรับว่าการเข้าร่วมชุมนุมมีผลกระทบต่ออาชีพ ทำให้คนที่คอยช่วยเหลืออยู่เบื้องหลังหดหาย ซึ่งอาจเป็นเพราะสังคมไทยมีอคติ ไปผูกรวมกับสิ่งอื่นๆ

ส่วนอนาคตดาราจะกล้าแสดงออกทางการเมืองแล้วยอมรับความเสี่ยงหรือไม่ ประเด็นนี้ตนบอกไม่ได้เพราะแต่ละคนคิดไม่เหมือนกัน ก็ต้องชั่งใจกันว่าเขาห่วงใยสิ่งไหนมากกว่ากัน ระหว่างสถานะที่เขายืนอยู่กับสังคมโดยรวม หากเขาเลือกที่จะห่วงสังคมโดยรวม ตนคิดว่าเขาจะตัดสินใจออกมา

นายศรัณยูยืนยันตนไม่ใช่นักการเมือง เคลื่อนไหวแล้วได้ตำแหน่งเป็นแกนนำรุ่น 2 เป็นความรับผิดชอบ ณ วาระนั้น ตนเป็นประชาชนหนึ่งคน ซึ่งแสดงความนึกคิดอย่างที่รู้สึก และเคารพกติกาของสังคม ไม่ได้อคติอยู่คนละข้างกับรัฐบาลแล้วจะไปหาเรื่องตีรวน และไม่มีความคิดที่จะล้มล้างเลย เป็นรัฐบาลก็ปล่อยให้ทำหน้าที่ไป เว้นแต่วันหนึ่งมีประเด็นซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ทางสังคมที่คนจำนวนหนึ่งซึ่งจะมากหรือน้อยเขารับไม่ได้ แล้วตนไปเห็นตามนั้นด้วย ก็เป็นจุดที่ตนจะออกไปเรียกร้อง

“ไม่ได้เกลียดชังคนเสื้อแดง เวลาเขาชุมนุมก็เห็นใจหลายๆ คนด้วยซ้ำ การไปอยู่ตรงนั้นไม่ใช่เรื่องสบาย มีความคิดแตกต่างกัน ก็อยู่กันคนละที่ละทางไม่ใช่เจอหน้ากันแล้วจะต้องไปฆ่าแกงกันตลอดเวลา สังคมต้องอยู่ร่วมกันได้ในความคิดต่างกันอยู่ร่วมกันได้ แต่ต้องเคารพกฎหมาย”

นายศรัณยูกล่าวทิ้งท้ายถึงการออกมาต่อสู้แทนประชาชนแต่ผลกระทบตกอยู่กับตัวเองว่า หากมองให้ดีว่าทั้งหมดเราทำเพื่อตนเอง ร่ำรวย คนยกย่องหรือ เมื่อมันไม่ใช่ มันก็ไม่ใช่ วันนั้นเราเชื่อมั่นในสิ่งที่เราคิด เชื่อมั่นในความรู้สึกที่ประชาชนอยู่ด้วยกัน มีเท่านั้นจริงๆ ต้นทุนเรามีแค่นั้น อย่างไรก็ดี หากนั่งคิดในมุมของตัวเอง อาจคิดไปได้ว่าทำไมเราต้องลำบากขนาดนี้ แต่นั่นไม่ได้ทำให้คิดว่าได้ทำสิ่งที่ผิดพลาด หรือรู้อย่างนี้ไปอยู่อีกข้างดีกว่า เพราะเราศรัทธาในสิ่งที่ทำ ทำตรงนั้นด้วยความรู้สึกที่แท้จริง

ทั้งนี้ หากให้ย้อนเวลาได้ก็ไม่คิดเลือกจุดยืนใหม่ เพราะสิ่งที่ทำทั้งหมดไม่ได้มุ่งหวังก้าวเข้ามาเล่นการเมือง
กำลังโหลดความคิดเห็น