รองนายกฯ ปัดให้ “วรพงษ์” นั่งเลขาฯ ป.ป.ส. อ้างให้งานไว้เยอะ โยนให้นายกฯ-รมว.ยธ.เห็นชอบ ถามให้ “พงศพัศ” เสียบบอกก็เหมาะ ส่วนคดี “บอส” ทายาทกระทิงแดงขับรถชนตำรวจดับสั่งเอาตัวจริง-ห้ามจับแพะ ลั่นถึงนามสกุลดังก็ไม่มีสะดุด ปัดให้ความเห็น “แพรวา” หลุดรับโทษ ชี้นำศพ “ฟารุต” ตรวจสอบต้องดู กม.-ศาสนา เพราะศพต้องฝังตามหลักอิสลาม สั่ง ปปท. ร่วม สบ.10 เอาผิดทุจริตน้ำท่วม
วันนี้ (3 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่จะให้ พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา ที่ปรึกษา (สบ 10) มาดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ว่า ไม่น่าจะใช่ เพราะตนใช้งาน พล.ต.อ.วรพงษ์หนักมาก เป็นหัวหน้าตรวจสอบการทุจริตทั้ง 3 โครงการ คือ งบน้ำท่วม งบท้องถิ่น และงบเยียวยา ซึ่งตนตั้งใจว่าการลักลอบค้าน้ำมันเถื่อนในระยะนี้ระบาดมาก และ พล.ต.อ.วรพงษ์เคยอยู่ใต้มาก่อน ถ้าให้ไปช่วยแก้ไขปัญหาน้ำมันเถื่อนจะทำงานได้ดี
ส่วนตำแหน่งเลขาธิการ ป.ป.ส.นั้นอยู่ ที่ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม และนายกรัฐมนตรีจะเห็นชอบให้ใครมาก็ทำงานกับตนได้ เพราะกำหนดหลักไว้ดีแล้ว และล่าสุดมีตำรวจจับชาวอาข่าได้ 2 คน ได้ยาบ้า 100,000 เม็ด โดยมีชาวม้ง อ.พบพระ จ.ตาก 5 คน ไปรับยาหน้าห้างบิ๊กซี จ.เชียงราย แสดงให้เห็นว่าตนดำเนินงานถูกต้อง เราลดอิทธิพลพวกนี้ พวกนี้ก็ผลิตไม่ได้ ตำรวจในภาคเหนือ ให้ความร่วมมือกับตนทุกคน ตนบอกแล้วว่ายาเสพติดมาจากภาคเหนือ ไม่มีที่อื่น และตอนนี้สารตั้งต้นมาจากเวียดนาม และที่ผ่านมารัฐบาลที่แล้วไม่ได้ทำอะไร คิดแต่จะเพิ่มโทษ มันประหารชีวิตโทษหนักอยู่แล้ว ไม่ต้องไปเพิ่มแต่ทำอย่างไร ที่จะให้ประหารเร็วขึ้นเท่านั้น
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าจะให้ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาเป็นเลขาธิการ ป.ป.ส. ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ตนไม่ทราบ เพราะตนไม่ยุ่งเป็นเรื่องของ รมว.ยุติธรรมกับนายกฯ เท่านั้น แต่ใครมาก็ได้แต่ พล.ต.อ.วรพงษ์ คงไม่ใช่ เมื่อถามย้อนว่า แล้ว พล.ต.อ.พงศพัศเหมาะสมหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ก็เหมาะ เพราะมีความคล่องตัวในการช่วยหลายฝ่ายเขาสามารถทำงานได้
ส่วนกรณีที่นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ลูกชายของนายเฉลิม อยู่วิทยา ผู้บริหารเครื่องดื่มชูกำลังตรากระทิงแดง และเป็นหลานชายนายเฉลียว อยู่วิทยา ผู้ล่วงลับ ขับรถชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ อายุ 40 ปี ผู้บังคับหมู่งานป้องกันและปราบปราม สน.ทองหล่อ จนเสียชีวิตคาที่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ตนทราบเรื่องแล้วและสั่งว่าต้องเอาตัวจริง อย่ามารับสมอ้างว่าขับไม่ได้ ตนบอกผู้บัญชาการนครบาลไปแล้วว่าชีวิตคนมีความหมาย ไม่ใช่เฉพาะตำรวจ เมื่อถามว่า คดีจะหลุดเพราะนามสกุลอีกหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ยุคนี้ไม่มีสะดุดที่นามสกุล ใครผิดก็ต้องผิด คนรวยเป็นเทวดาหรือ คนรวยทำผิดไม่ได้หรือ
เมื่อถามว่า กรณี น.ส.แพรวา (ขอสงวนนามสกุล) ยังไม่ต้องรับโทษหนักกรณีประมาทจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ถามไม่ได้ เรื่องศาลตนไม่ทราบ คือประมาทเป็นเหตุให้คนอื่นถึงแก่ความตายมันเกิดขึ้นได้ แต่ถ้าทำในลักษณะชนแล้วหนีมันผิดจรรยาบรรณ และถ้าเกิดมีการเปลี่ยนตัว ซึ่งตนยังไม่ทราบมีแต่แว่วว่ามีคนโทร.มาฟ้องตนว่า ระวังนะจะไม่ใช่ตัวจริง ตนก็บอกผู้บัญชาการตำรวจนครบาลไปแล้วว่าไม่ได้ ต้องหาตัวจริง แล้วทำไมเราต้องไปสะดุดที่นามสกุล แล้วเขานามสกุลอะไร ผู้สื่อข่าวจึงตอบว่า อยู่วิทยา ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวพร้อมหัวเราะว่า คิดว่าอยู่บำรุง ผู้สื่อข่าวย้อนถามว่า คดีส่วนมากคนรวยมักจะฆ่าคนตายโดยไม่ต้องติดคุก ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ไม่มี เป็นไปไม่ได้ เมื่อถามว่าจะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะไม่จับคนผิด เพราะขนาดตำรวจที่เข้าไปตรวจสอบแต่แรกก็นำคนในบ้านออกมารับสมอ้างว่าขับรถไปชนตำรวจ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ให้ตนไปตรวจสอบก่อน
เมื่อถามถึงกรณีนายฟารุต ไชยเศรษฐ์ บุตรชายนายชาดา ไชยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคชาติไทยพัฒนา ถูกยิงเสียชีวิต ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ต้องดูหลักกฎหมายกับหลักศาสนา เพราะตามหลักศาสนาอิสลามเขาให้ฝังศพ จะนำศพมาพิสูจน์เราก็ต้องดูให้ดี เพราะหลักศาสนาเป็นเรื่องของจิตใจ หลักกฎหมายเป็นเรื่องที่กฎหมายบังคับ เราต้องตรวจสอบดูให้ถี่ถ้วน หลักศาสนาก็ละเอียดอ่อนต้องค่อยๆ คุยกัน
ส่วนกรณีเรื่องทุจริตน้ำท่วม ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ยังไม่มีใครส่งเรื่องมา แต่ตนบอกสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ให้เอาเรื่องมารวมกับ พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา ที่ปรึกษา สบ 10 แล้วทำงานร่วมกันเรื่องนี้ต้องช่วยกัน เพราะที่ผ่านมาไม่มีใครทำอะไร ทุกคนทำงานหนักไม่มีใครมีอิทธิพล ตนยังเล็กคนอื่นจะมาใหญ่ได้อย่างไร
