“ชลิตรัตน์” เผยรายงาน ครม. ยันพายุใต้ฝุ่นแปซิฟิก 2 ลูกไม่กระทบไทย เหนือฝนตกหนัก อันดามัน-อ่าวไทยคลื่นสูง และแม่น้ำสายหลักต่ำกว่าตลิ่ง ส่วนเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์น้ำลดลง แต่ย้ำบริหารน้ำในเขื่อนกันแล้ง พร้อมทั้งรองรับน้ำล้นเขื่อน เชื่อน้ำไม่ท่วมในปีนี้
วันนี้ (28 ส.ค.) นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยและคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ได้รายงานต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เกี่ยวกับสถานการณ์ภูมิอากาศในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีพายุใต้ฝุ่นก่อตัว 2 ลูกบริเวณทะเลแปซิฟิก ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับประเทศไทย
ส่วนความกดอากาศต่ำหรือร่องมรสุมที่จะส่งผลกระทบต่อประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 27-29 ส.ค. ซึ่งอาจะมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ และลมมรสุมกำลังแรงปกคลุมทะเลอันดามัน-อ่าวไทยและประเทศไทย ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากในภาคเหนือ ส่วนทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร
สำหรับสถานการณ์น้ำในแม่น้ำสายหลักที่ลงต่ำกว่าตลิ่ง โดยแม่น้ำปิง 6.43 เมตร แม่น้ำยม 3.64 เมตร แม่น้ำน่าน 4.94 เมตร แม่น้ำเจ้าพระยา 6.64 เมตร และเป็นที่แน่นอนตามที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งได้รายงานต่อครม.สัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ ว่าอาจจะมีฝนทิ้งช่วงหรืออาจจะมีการขาดน้ำบ้างในช่วงนี้
อย่างไรก็ดี ปริมาณน้ำในเขื่อนขณะนี้ได้มีการปล่อยให้น้อยลงในเขื่อนหลัก เช่น เขื่อนภูมิพลและเขื่อสิริกิต์ ก็จะทำการเริ่มกักเก็บน้ำตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยเขื่อนภูมิพลมีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่าง 29 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน ขณะที่เขื่อนสิริกิติ์ประมาณ 52 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ 5 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน และน้ำที่ไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 33 แห่งทั่วประเทศ รวม 4.1 หมื่นล้าน ลบ.ม. ซึ่งการบริหารน้ำในเขื่อนจะเป็นการกักเก็บน้ำ เพื่อป้องกันภัยแล้งในอนาคต
ทั้งนี้ จะมีการระบายน้ำในเขื่อนวชิราลงกรณ์ หรือเขื่อนเขาแหลม ระบายน้ำไม่เกินวันละ 35 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนศรีนตรินทร์ ให้ปรับการระบายน้ำเป็นวันละ 8-10 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งทั้ง 2 เขื่อนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีน้ำประมาณ 80% ซึ่งเยอะที่สุดในประเทศไทย เมื่อเทียบกับเขื่อนอื่น
ส่วนเขื่อนสำคัญ 2 เขื่อน คือ เขื่อนภูมิพลยังสามารถรับน้ำได้อีก 7 พันล้าน ลบ.ม. และเขื่อนสิริกิติ์สามารถรับน้ำได้ 4.5 พันล้าน ลบ.ม. ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการน้ำล้นเขื่อน คือ รับน้ำได้อีก 1 หมื่นล้าน ลบ.ม. และหากดูตัวเลขคือครึ่งหนึ่งของปริมาณน้ำท่วมในปีที่แล้ว ดังนั้น ประชาชนสามารถวางใจได้ว่าน้ำไม่น่าท่วมในปีนี้