“ยุทธศักดิ์” แนะ “สุกำพล” แจงข้อเท็จจริงเหตุเด้ง “เสถียร” ออกจากปลัดกลาโหม พร้อมเสนอให้เรียกประชุมสภากลาโหมสมัยวิสามัญ เพื่อทำความเข้าใจกับผู้นำเหล่าทัพ ระบุคำสั่ง รมว.กลาโหมไม่ใชการโยกย้าย แต่เป็นการส่งตัวไปช่วยราชการ ชี้ 40 ปีไม่เคยเกิดขึ้น
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีคำสั่งย้าย พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ชาตรี ทัตติ รองปลัดกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.พิณภาษณ์ สริวัฒน์ เจ้ากรมเสมียนตรา ไปช่วยราชการสำนักงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องภายในกระทรวง การย้ายให้ไปช่วยราชการนั้นควรให้รัฐมนตรีกลาโหมเป็นผู้ชี้แจง แต่เหตุการณ์เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นับเป็น 40 ปีได้
อย่างไรก็ตาม ตนก็ยังไม่ได้หารือกับรัฐมนตรีกลาโหมแต่อย่างใด แต่เชื่อว่าเรื่องนี้คงไม่น่าส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล หากแก้ไขภายในกระทรวงได้ ตนคิดว่ารัฐมนตรีกลาโหมควรที่จะชี้แจงหรือแถลงข่าวให้เป็นที่เข้าใจว่าได้ตัดสินใจดำเนินการเรื่องนี้เพราะอะไร เนื่องจากมีหลายคนที่ยังไม่เข้าใจในรายละเอียดอยู่
พล.อ.ยุธทศักดิ์กล่าวว่า ส่วนตัวยังไม่อยากแสดงความคิดเห็น เพราะต้องขอไปดูในเรื่องข้อกฎหมายตาม มาตรา 5 มาตรา 9 และมาตรา 24 ที่ได้ระบุไว้ในคำสั่งว่าในแต่ละมาตราเกี่ยวข้องกับอำนาจ เกี่ยวข้องกับดำเนินการในเรื่องของกำลังพลอย่างไรบ้าง นอกจากนี้ยังต้องไปดูในมาตรา 25 ของ พ.ร.บ.จัดระเบียบข้าราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2551 ว่าการบริหารจัดการในเรื่องของกำลังพลเกี่ยวข้องกันอย่างไร เมื่อย้ายไปช่วยราชการแล้ว ตำแหน่งในสภากลาโหม ตำแหน่งของปลัดกระทรวง และรองปลัดกระทรวงจะหายไปหรือไม่ นอกจากนี้ยังมีกฎกระทรวงที่ออกตาม พ.ร.บ.จัดระเบียบข้าราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2551 อีกหลายฉบับ ที่กล่าวถึงอำนาจหน้าที่และความเกี่ยวข้องของการบริหารกำลังพล จึงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบข้อกฎหมายต่างๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ความผิดของ พล.อ.เสถียร เป็นความผิดร้ายแรงถึงต้องมีคำสั่งฟ้าฝ่าหรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า คำสั่งนี้ไม่ใช้การโยกย้าย แต่เป็นการส่งตัวไปช่วยราชการ ตำแหน่งของปลัดกระทรวงกลาโหมก็ยังมีอยู่ เพราะหลักการในการย้ายพลเอกที่ครองอัตราจอมพลไปที่ใดที่หนึ่งนั้นจะต้องมีตำแหน่งรองรับ จะย้ายไปลอยๆ ไม่ได้ เพราะฉะนั้นหากจะมีตำแหน่งรองรับก็ต้องมีการปรับผัง ส่วนจะมีการร้องขอความเป็นธรรมหรือไม่นั้น คงต้องขึ้นอยู่กับผู้ที่ได้รับการโยกย้าย อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้จะส่งผลถึงการจัดระเบียบ พ.ร.บ.กลาโหมใหม่หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบข่าว เชื่อว่ายังไม่มีขั้นตอนนี้แน่
ส่วนที่ฝ่ายค้านกล่าวหาว่ารัฐมนตรีกลาโหมเข้าไปแทรกแซงกองทัพ มองว่าเป็นอย่างนั้นหรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ตนเชื่อว่ารัฐมนตรีกลาโหมในฐานะที่เป็นประธานสภากลาโหม ควรจะเรียกประชุมวิสามัญสภากลาโหม เพื่อทำความเข้าใจกับผู้บัญชาการเหล่าทัพทั้งหมด ว่าที่ออกคำสั่งดังกล่าวนั้นมีข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ถ้าหากมีการปรับความเข้าใจกันแล้ว ก็จะไม่เกิดความแตกแยกขึ้น อย่างไรก็ตาม การจัดทำโผทหารนั้นยังสามารถทำได้จนถึงสิ้นเดือนกันยายน
“ผมคิดว่าคำสั่งดังกล่าวนั้นเป็นคำสั่งช่วยราชการไม่ใช่คำสั่งโยกย้าย เพราะคำสั่งโยกย้ายต้องกราบบังคมทูลโดยนายกรัฐมนตรี และเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ แต่ในครั้งนี้เป็นเพียงคำสั่งของรัฐมนตรีกลาโหมเท่านั้น จึงไม่ใช่คำสั่งโยกย้ายที่แท้จริง”