รองนายกฯ ไม่รู้ ปลัดกลาโหม ทำหนังสือท้วงโยกย้ายไม่ตามหลักเกณฑ์ โยน กก.สภากลาโหม พิจารณาโผ ปัดนายกฯ ล้วงลูก บอกไม่มีรอยร้าวระหว่างรัฐ กับกองทัพ เชื่อหลังออกคำสั่งทุกอย่างเรียบร้อย
วันนี้ (26 ส.ค.) ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า พระราชวังดุสิต เมื่อเวลา 07.40 น.พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณี พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ได้ทำหนังสือลงวันที่ 24 ส.ค.2555 ถึงนายกรัฐมนตรี เรื่อง การเสนอชื่อผู้มาดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กระทรวงกลาโหมกำหนด ว่า ตนไม่ทราบเรื่องในการดำเนินการภายในกระทรวง ซึ่งตนคิดว่าทุกอย่างเป็นไปตามหลักการ โดยหลักเกณฑ์การเลือกจะต้องใช้คณะกรรมการของสภากลาโหมเป็นผู้พิจารณา ซึ่งคณะกรรมการที่พิจารณาปรับย้าย จะประกอบด้วย กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ ปลัดกระทรวงกลาโหม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่จะเป็นผู้พิจารณาครั้งสุดท้ายว่า จะพิจารณาใคร หลักเกณฑ์ที่ถามตนว่าแต่ละส่วนมีสิทธิ์ที่จะเสนอหรือไม่ คณะกรรมการทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเสนอหากว่าในหน่วยงานของตนมีบุคคลที่มีความอาวุโส มีความเหมาะสม มีความสามารถ ก็เสนอให้คณะกรรมการพิจารณาได้ และการพิจารณาของคณะกรรมการก็จะเป็นข้อยุติว่าจะเลือกใครดำรงตำแหน่งอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า การทำหนังสือมาถึงนายกรัฐมนตรี แสดงว่า มีการล้วงลูกการแต่งตั้งในกองทัพหรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ตนว่าไม่ใช่เป็นการล้วงลูก เพราะว่านายกรัฐมนตรีจะรับทราบหลังจากที่มีการพิจารณาของคณะกรรมการแล้ว แต่ตนไม่เห็นหนังสือ จึงยังพูดไม่ได้ว่าหนังสือเขียนไว้อย่างไรบ้าง แต่หลักการต้องไปเป็นไปตามที่ตนพูด
ถามต่อว่า ตรงนี้จะทำให้เห็นรอยร้าวของรัฐบาลกับกองทัพหรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนดูแล้วมันไม่มีรอยร้าวระหว่างรัฐบาลกับกองทัพ เพราะว่าผู้บังคับบัญชาของกองทัพก็จะเสนอลูกน้องของตนที่มีความเหมาะสมเข้ามาแคนดิเดตกัน สำนักกระทรวงกลาโหม กองทัพบัญชากองทัพไทย กองทัพบก ก็มีบุคคล กองทัพเรือ กองทัพอากาศจะมีหรือเปล่าตนไม่ทราบ ถ้ามีก็สามารถเสนอเข้ามาพิจารณาได้ ซึ่งจะพิจารณาว่าใครที่จะเหมาะสมที่สุด มีความสามารถและอาวุโส
เมื่อถามว่า ปลัดกระทรวงกลาโหม ยืนยันว่า จะต้องเสนอคนที่มีอาวุโสอันดับหนึ่งขึ้นมาเป็นแทน พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ตรงนั้นเป็นหลักการ เมื่อเข้าไปในที่ประชุมคณะกรรมการก็จะได้ข้อยุติออกมา เหมือนปีที่แล้วที่ได้มีการเสนอบุคคลต่างๆ เข้ามา ซึ่งมีทั้งสายงานของสำนักงานปลัดและกองบัญชาการกองทัพไทย ผลที่สุดก็ได้จากกองทัพไทยที่ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเสนอมาอย่างนี้เป็นต้น ซึ่งก็ไม่ได้มีความแตกแยกอะไร โดยเฉพาะทหารมีการบังคับบัญชา มีความเป็นพี่เป็นน้อง หลังจากคำสั่งออกแล้วทุกอย่างก็จะเรียบร้อย และเป็นไปตามคำสั่ง เพราะทหารถือว่าคำสั่งของผู้บังคับบัญชาเป็นคำสั่งที่มีความศักดิ์สิทธิ์ และมีความสำคัญ