“องอาจ” จวก “ปู” เมินตอบกระทู้ไม่เอาจริงปราบโกง “นิวัฒน์ธำรง” ยันประสานทุกหน่วยเข้มแล้ว

“องอาจ” ถามกระทู้สดทุจริตคอร์รัปชัน ซัดนายกฯ ไม่มาตอบเองสะท้อนความไม่เอาจริง สับปิดบังพาสเวิร์ดสอบงบกู้ 3.5 แสนล้าน จวก “กิตติรัตน์” งานเหลว แฉมีข่าวหักหัวคิว 30% งงเมินฟัน “ยงยุทธ” โดนคดีอัลไพน์ “นิวัฒน์ธำรง” ตอบแทน ยันเป็นวาระแห่งชาติ ประสานทุกหน่วยเอาจริงแล้ว ลั่นไม่มีงุบงิบงบน้ำท่วม สวน ส.ส.บางคนโดน ป.ป.ช.ชี้มูลยังนั่งในสภาได้ โอ่ลำดับโลกเริ่มดีขึ้น

วันนี้ (23 ส.ค.) ที่รัฐสภา การประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ถามนายกรัฐมนตรีเรื่องการทุจริตคอร์รัปชันของนายกรัฐมนตรีว่า นายกรัฐมนตรีเคยประกาศว่าจะดูแลข้อมูลเรื่องการการทุจริตคอร์รัปชันด้วยตัวเอง ก่อนส่งไปให้หน่วยงานอื่นดำเนินการแก้ไข แต่นายกรัฐมนตรีกลับไม่มาตอบกระทู้ที่สภาด้วยตัวเองสะท้อนให้เห็นถึงความไม่เอาจริงเอาจังในการแก้ปัญหาดังกล่าว อยากถามว่าปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันเป็นเรื่องเรื่องใหญ่ เรื่องเร่งด่วนและเรื่องสำคัญของรัฐบาลหรือไม่ รวมถึงการอภิปรายงบประมาณปี 56 ที่ผ่านมาก็ฟ้องว่านายกรัฐมนตรีไม่ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาทุจริต เพราะตั้งงบปราบปรามการทุจริตทุกกระทรวง ทบวง กรม เพียงแค่ 420 ล้านบาท นอกจากนี้ยังปิดบังอำพรางโดยไม่ยอมมอบพาสเวิร์ดในการเข้าไปตรวจสอบการใช้งบประมาณเงินกู้เรื่องน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ที่ทางคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 สอบถามไปถึง 7 ครั้ง แต่รัฐบาลก็บ่ายเบี่ยงตลอดมา ซึ่งการปิดบังดังกล่าวเป็นจุดเริ่มต้นการของการทุจริตคอร์รัปชัน

นายองอาจกล่าวต่อว่า ขณะที่นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ก็ทำตาใส ใส่เสื้อชุดพระราชทาน ทำงานล้มเหลว รวมไปถึงยังมีข่าวการหักหัวคิว 30% ในโครงการต่างๆ ซึ่งเกิดจากวงจรอุบาทว์นักการเมืองชั่ว ธุรกิจเลว ข้าราชการขี้ฉ้อ อยากถามว่ารัฐบาลจะดำเนินการอย่างใด รวมไปถึงกรณีที่ ป.ป.ช.ชี้มูลนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในคดีอัลไพน์ แต่นายกรัฐมนตรีกลับไม่มีการดำเนินการใดๆ อยากถามว่ารัฐบาลจะจัดการเรื่องเหล่านี้อย่างไรบ้าง

ด้าน นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงแทนนายกรัฐมนตรีว่า ยืนยันว่ารัฐบาลประกาศโครงการทุจริตคอร์รัปชันเป็นวาระแห่งชาติ โดยประสานไปที่หน่วยงานกระทรวง ทบวง กรม และเอกชนให้ดำเนินการตามแนวทางของรัฐบาล ส่วนกรณีถามเรื่องเงินกู้น้ำท่วม 3.5 แสนล้านบาทที่อ้างว่าไม่ได้เปิดข้อมูลนั้น ขอยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่ได้มีการใช้จ่ายเงินเลย เพราะอยู่ระหว่างการให้ผู้เชี่ยวชาญทั้งชาวไทยและต่างประเทศมาศึกษาปัญหาดังกล่าวอยู่ ขอยืนยันว่าเราไม่ได้งุบงิบเงิน แต่อย่างใด ส่วนกรณีเรื่องนายยงยุทธยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องใหม่ และคนที่นั่งอยู่ในสภาฯ ก็มีคนเคยถูก ป.ป.ช.ชี้มูลแต่ก็ยังสามารถทำงานได้อยู่ จึงอยากให้ความเป็นธรรมแก่นายยงยุทธด้วย และหากใครเห็นความไม่ชอบมาพากล หรือพบว่าใครทุจริตก็ให้ยื่นเรื่องมาที่หน่วยงาน หากหัวหน้าหน่วยงานไม่ดำเนินการจะถูกดำเนินคดีอาญาตามมาตรา 157

นายนิวัฒน์ธำรงกล่าวว่า สถานการณ์ทุจริตของประเทศไทยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาอยู่ในลำดับโลก ระหว่างลำดับที่ 70-80 ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปไหน ซึ่งในปี 47-49 สมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ประเทศไทยอยู่ลำดับที่ 60 กว่า พอมาในปี 52 อยู่ลำดับที่ 84 ปี 53 อยู่ลำดับที่ 78 ปี 54 ลำดับที่ 80 ขณะที่กลุ่มประเทศในอาเซียน ไทยอยู่ลำดับ 3 รองจากสิงคโปร์ และมาเลเซีย โดยค่าเฉลี่ยการให้คะแนนของไทยมีแนวโน้มดีขึ้น