“หงา คาราวาน” เชื่อหากไม่มีรัฐประหาร 19 ก.ย. ม็อบเผชิญหน้าประเทศเสียหายกว่าเยอะ เหน็บสาวกแม้วเลิกบ้าอะไรก็แดง ชี้ไม่ใช่กีฬาสีใส่เสื้อม่อฮ่อมก็สู้ได้ ระบุมุ่งเอานายคืน ยากที่จะยอมรับ ชวนนักคิด ศิลปิน กล้าแสดงจุดยืน
วันที่ 20 ส.ค. นายสุรชัย จันทิมาธร หรือหงา คาราวาน ศิลปินเพื่อชีวิต “ตอบโจทย์” ทางสถานีไทยพีบีเอส ถึงมูลเหตุจูงใจเข้าร่วมต่อสู้กับพันธมิตรฯ เมื่อปี 2548 ว่า ตามความเข้าใจในช่วงนั้นคิดว่าไม่ใช่เรื่องเสียหาย ที่จะขึ้นเวทีร้องเพลงให้กำลังใจกับการต่อสู้เพื่อผดุงความยุติธรรม เพราะอย่างน้อยที่เห็นเด่นชัดก็กรณีทักษิณผิดจริง
เห็นด้วยกับการรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 เนื่องจากขณะนั้นประเทศกำลังก้าวเข้าสู่ความรุนแรง อีกอย่างรัฐประหารในครั้งนั้นก็ไม่ได้รุนแรง ไม่ได้เอาปืนไปฆ่าใคร จุดมุ่งหมายไม่ใช่เพื่อปราบปรามประชาชน แต่เพื่อระงับความรุนแรงของสองม็อบที่กำลังเผชิญหน้ากัน หากไม่มีรัฐประหารในครั้งนั้น ตนเชื่อว่าจะมีเหตุการณ์ที่หนักกว่านี้
ส่วนประเด็นที่ตนเขียนบทกวี “ขอเรียนศาลแห่งสีที่เคารพ” แม้จะมีเสียงวิจารณ์จากเพื่อนเก่าบ้าง ก็ไม่ได้เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น กลับดีใจที่ได้จุดประกายให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในสังคมศิลปวัฒนธรรมของบ้านเรา โดยเฉพาะในกลุ่มศิลปิน นักคิด นักเขียน ตนว่าอย่ามัวแต่อำพรางตัวอยู่เลย ใครคิดอย่างไรก็โผล่ขึ้นมาได้
“ขบวนการของคนเสื้อแดง อะไรก็แดง แดงทั้งแผ่นดิน หมู่บ้านก็แดง ขอเบรกตรงนี้ ไม่ต้องใช้สีหรอก มันไม่ใช่กีฬาสี คุณใส่อะไรก็ได้ ใส่เสื้อม่อฮ่อมก็สู้ได้ อย่าบ้ากับสีเหล่านี้ให้มากนัก ประเทศไทยจะเจริญขึ้นเยอะ ถ้าทุกคนไม่เอาเรื่องสีมารบราฆ่าฟันกัน บ้านเมืองเราจะน่าอยู่ขึ้นเยอะ”
นายสุรชัยกล่าวต่อว่า ปัญหาของประเทศต่างฝ่ายต่างคิดว่าตัวเองถูก ทางออกเราต้องมองหาสาเหตุการป่วยให้เห็นข้อเท็จริง ทุกอย่างมีเกิดย่อมมีเสื่อมแต่เราสามารถเลือกเอาสิ่งที่ดีไว้ได้ แล้วหาทางออกร่วมกันไม่ต้องเอียงข้างใดข้างหนึ่งมากเกินไป ปัญหาปัจจุบันไม่ใช่เรื่องลัทธิ แต่เป็นเรื่องจะเอานายคืนมา มันเป็นเรื่องยากหากจะให้ยอมรับ