“ถวิล” ฉะ “ดีเอสไอ” บี้มือสไนเปอร์ทำ จนท.ขวัญเสีย ชี้ทำตามหน้าที่มี กม.ฉุกเฉินคุ้มครอง พร้อมยัน “ชุดดำ” ไม่ใช่ทหาร เตือนหวังล่อ “มาร์ค-สุเทพ” แต่กระทบกองทัพแทน
วานนี้ (16 ส.ค.) นายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขานุการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) กล่าวถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เตรียมออกหมายเรียกมือสไนเปอร์ที่ยิงใส่กลุ่มคนเสื้อแดงในวัดปทุมวนารามฯ ครั้งเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์ว่า เจ้าหน้าที่ที่ออกไปปฏิบัติหน้าที่มีกฎหมายคุ้มครองอยู่ตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ซึ่งการที่เจ้าหน้าที่พกพาอาวุธหรือสไนเปอร์เข้าไปบริเวณพื้นที่ชุมนุมก็เป็นเพราะฝั่งตรงข้ามมีการใช้อาวุธและยิงใส่เจ้าหน้าที่ โดยเจ้าหน้าที่ก็มีเหตุผลที่ต้องมีหน่วยที่พกพาอาวุธเข้าไป แต่ทั้งนี้กฎของหน่วยที่เข้าไปก็ได้มีการกำชับอย่างชัดเจนว่าจะยิงสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ หรือจะไปยิงผู้ชุมนุมไม่ได้ แต่ให้ใช้สำหรับป้องกันชีวิตและใช้กับผู้ที่ละเมิดกฎหมายเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่มีปัญหาว่ากันตามกฎหมาย ส่วนที่มีการระบุว่าชายชุดดำเป็นทหารนั้น ตนขอปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง เราไม่มีเจ้าหน้าที่ที่ใส่ชุดดำ การปฏิบัติในเหตุการณ์ดังกล่าวต้องใส่ชุดของทางราชการเท่านั้น ขณะเดียวกันในเหตุการณ์ดังกล่าวก็มีทหารที่เข้าไปโดนยิงด้วยสไนเปอร์เสียชีวิตเหมือนกัน
“เป้าหมายของเขาต้องการเล่นงานนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ ศอฉ. แต่การออกมาครั้งนี้กลับมีการพาดพิงถึงทหาร เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จะทำให้เจ้าหน้าที่ขวัญเสีย เพราะเขาเหล่านั้นออกปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายและก็เป็นไปตามกฎหมายทุกอย่าง แต่กลับต้องมาโดนสอบสวน อย่างไรก็ตาม ผมยังมั่นใจว่าการสั่งการต่างๆในขณะนั้นเป็นไปตามกฎหมาย และเจ้าหน้าที่ก็ปฏิบัติในกรอบของกฎหมายอย่างเคร่งครัด” อดีตเลขานุการ ศอฉ.ระบุ