แท็กซี่สีชมพูขาประจำร้องหาเงินเยียวยาชุมนุมเสื้อแดงไม่เลิก ล่าสุดมามุกใหม่เร่งเครื่องชนตำรวจรัฐสภา ก่อนขับขึ้นไปชั้นลอย บีบแตรสนั่น ใช้มีดจี้คอหอยร้องหา ส.ส.เพื่อไทย กมธ.กฎหมาย สุดท้าย “เจริญ” เกลี้ยกล่อมพาเข้าห้องทำงานเพื่อพูดคุย
วันนี้ (14 ส.ค.) เมื่อเวลา 11.55 น. ที่รัฐสภา ระหว่างที่มีการประชุมวุฒิสภา ในวาระพิจารณาเลือกประธานวุฒิสภา ได้มีเหตุไม่คาดคิดขึ้น เมื่อมีรถแท็กซี่รับจ้างสีชมพู หมายเลขทะเบียน ทย 9522 กทม. จากสหกรณ์แท็กซี่ปทุมวัน จำกัด ได้วิ่งจากเส้นทางถนนราชวิถีเข้าสู่ถนนอู่ทองใน แล้วขับสวนประตูทางออกของรัฐสภา พุ่งชนเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภาจนล้มลงกับพื้นจนได้รับบาดเจ็บ แล้วรีบเร่งเครื่องขับขึ้นไปชั้นลอยของอาคารรัฐสภา ก่อนไปจอดบริเวณหน้าประตูทางเข้าของสมาชิกรัฐสภา ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภาออกมายังจุดที่เกิดเหตุ
ทั้งนี้ แท็กซี่ดังกล่าวยังจอดอยู่เพื่อเรียกร้องความสนใจ ซึ่งภายหลังทราบว่าชื่อผู้ขับขี่รถแท็กซี่ดังกล่าว คือ นายพงศ์พิชาญ ธนาถิรพงษ์ อายุ 49 ปี ซึ่งเคยขับรถแท็กซี่ไปประท้วงสถานที่ราชการ พร้อมสร้างจุดสนใจให้ตัวเอง โดยในครั้งนี้ได้คว้ามีดมาจ่อคอหอย พร้อมบีบแตรดังสนั่น และเร่งเครื่อง โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภาต่างมายืนคุมเชิงและพูดกล่อม โดยมี พล.ต.ต.ขจร สัยวัตร์ ส.ว.หนองคายพยายามเข้ามาเกลี้ยกล่อมเจรจาต่อรอง เพื่อให้นายพงศ์พิชาญหยุดการกระทำ แต่ไม่เป็นผล กระทั่งนายพงศ์พิชาญได้เจรจาผ่านทางโทรศัพท์ว่าจะขอพบ พล.ต.อ.วิรุฬ ฟื้นเสน ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการกฎหมาย สภาผู้แทนราษฎร
ระหว่างการเจรจา สื่อมวลชนให้ความสนใจ ทำให้นายพงศ์พิชาญพยายามออกแอ็กชันโดยเอามีดมาจ่อแขนบ้าง จ่อคอบ้าง โดยไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.ดุสิต มาปฏิบัติการในพื้นที่ ทำให้ ส.ว.และ ส.ส.ที่มายืนดูต่างถามหาความพร้อมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และตำรวจรัฐสภา ที่ถือว่าระบบการรักษาความปลอดภัยหละหลวมมาก กระทั่งเวลา 12.40 น. นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางมาเจรจาเกลี้ยกล่อม พร้อมถามว่าอยากมาพบใคร โดยรับประกันว่าจะไม่เอาผิด และจะเปิดให้มาพบที่ห้องทำงานเพื่อพูดคุย จนนายพงศ์พิชาญยอมถอยรถแล้วเข้าพบที่ห้องนายเจริญตามที่ได้ตกลง
สำหรับนายพงศ์พิชาญ แท็กซี่รายนี้มักจะไปประท้วงตามสถานที่ราชการ เช่น รัฐสภา ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องในเรื่องเงินเยียวยาจากเหตุการณ์ไม่สงบทางการเมือง โดยนายพงศ์พิชาญอ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่ไม่ยอมจ่ายเงินเยียวยา ซึ่งตนได้รับผลกระทบ 2 เหตุการณ์ แต่ได้รับเงินเพียง 1 เหตุการณ์ อีกทั้งยังไม่ยอมจ่ายเงินค่าอาการบาดเจ็บสาหัสอีกด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 1 ส.ค. นายพงศ์พิชาญได้จอดรถที่หน้าอาคารรัฐสภาและตะโกนโวยวายจนเป็นที่สนใจของบรรดาสื่อมวลชนมาแล้ว