“ณัฐวุฒิ” ตื่นสร้างความปรองดอง หลัง พธม.สหรัฐฯ ตะเพิด “นช.แม้ว”

“ณัฐวุฒิ” เย้ยฝ่ายค้านไร้ประเด็นซักฟอก แค่ส่งหน่วยตีฆ้องร้องป่าวออกมาแสดง มั่นใจไม่มีข้อมูลใดๆ มาทำใหัรัฐบาลระคายผิว เหน็บ “มาร์ค” ของขวัญอันล้ำค่าทำให้ พท.แข็งแกร่ง ขณะเดียวกัน เพิ่งตื่นเรียกร้องผู้มีอำนาจเร่งสร้างความปรองดอง ระบุเหตุการณ์พันธมิตรฯ สหรัฐฯ รวมพลังขับไล่ “นช.แม้ว” เป็นการส่งสัญญาณให้ต้องรีบระงับความขัดแย้ง

นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงการเตรียมการแถลงผลงานของรัฐบาลว่า รัฐบาลทำงานมาตลอด ทั้งนโยบายที่เป็นของพรรคเพื่อไทย งานที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนประเทศตามวาระปกติของรัฐบาล นายกรัฐมนตรีได้กำกับดูแลมาด้วยตัวเองมาตลอด การทำงานทุกวันในตลอด 1 ปีที่ผ่านมา คือการเตรียมตัวอย่างดีที่สุดในการตอบคำถามทุกคำถาม ทั้งจากพรรคฝ่ายค้าน และประชาชน

“การจัดทำงบประมาณ รวมถึงการแถลงผลงาน 1 ปีของรัฐบาล ถ้าหากนายกรัฐมนตรีและทีมงานไม่ได้ลงมือปฏิบัติอย่างเข้มข้น ก็จะต้องเร่งมือในการเตรียมข้อมูลให้มากหน่อย แต่ว่าถ้าทำงานอย่างเต็มที่มาตลอดก็ไม่น่าจะมีปัญหา รัฐบาลก็พร้อมจะชี้แจงได้ทุกวัน”

ผู้สื่อข่าวถามว่า จากกระแสพรรคฝ่ายค้านในเรื่องญัติที่จะยื่นไม่ไว้วางใจนั้นมีแนวโน้มลดลงนั้นเป็นเพราะอะไร นายณัฐวุติกล่าวว่า เป็นเรื่องของประเด็นที่จะยื่นญัติ ถ้าหากว่าพรรคประชาธิปัตย์เห็นประเด็นอะไรสักเล็กน้อย ก็คงจะคึกคักกว่านี้

“หน่วยตีฆ้องร้องป่าวก็เรียกร้องไป แต่หน่วยที่ปฏิบัติจริงเมื่อเห็นว่าไม่มีประเด็นและข้อมูลที่จะอภิปรายได้ การขับเคลื่อนจึงยังไม่เกิด มั่นใจว่าในสมัยประชุมสภาครั้งนี้ พรรคฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจแน่นอน แต่เชื่อว่าประเด็นที่จะเอามาอภิปราย จะไม่มีสาระ ข้อเท็จจริง หรือหลักฐานที่จะทำให้รัฐบาลต้องประสบกับความยากลำบากในการตอบคำถามได้”

นายณัฐวุติยังได้กล่าวถึงกระแสข่าวลือในการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า ไม่ได้อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพรรคประชาธิปัตย์มากเท่าไหร่ ซึ่งก็ได้ยินมาแบบนั้นจริงๆ แต่ในฐานะของสมาชิกพรรคเพื่อไทย ถ้าเลือกได้ก็อยากจะเลือกให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคต่อไป คนนี้ตนเชียร์ เพราะถือว่าเป็นของขวัญอันล้ำค่าที่สุดที่พรรคเพื่อไทยได้รับจากพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้พรรคเพื่อไทยมีความแข็งแกร่งมากขึ้น

“เรามีจุดยืนในแนวทางประชาธิปไตย์ที่ชัดเจน ในขณะที่คุณอภิสิทธิ์มีแนวนโยบายที่เดินออกห่างจากความเป็นประชาธิปไตย์มากขึ้นทุกที การบริหารงานของคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็เป็นรูปธรรมว่า 1 ปีที่ผ่านมามีการเปิดนโยบายใหม่ๆ มากมาย แต่ตลอดระยะเวลา 2 ปี 8 เดือนในการบริหารของรัฐบาลคุณอภิสิทธิ์เต็มไปด้วยข้อวิพากษ์วิจารณ์และสิ่งที่เป็นปัญหา”

นายณัฐวุฒิกล่าวถึงเหตุการณ์การขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่สหรัฐอเมริกาว่า เป็นเรื่องปกติที่อยู่ในพื้นที่ที่มีคนไทยอยู่ทั่วโลก เพราะในขณะนี้สถานการณ์ทางการเมืองของประเทศไทยยังมีความขัดแย้งกันอยู่ การต่อสู้หักล้างระหว่าง 2 อุดมการณ์ทางการเมืองได้ซึมลึกไปสู่ทุกองค์ประกอบของสังคม ฉะนั้นในสหรัฐอเมริกาที่เปิดกว้างในเรื่องของการเมือง การแสดงออกทางการเมืองจึงทำได้อย่างสะดวก

“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นสัญญาณให้กับฝ่ายการเมืองและผู้รับผิดชอบทั้งหลายว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องหาทางออกให้กับประเทศ ถึงเวลาแล้วที่จะต้องสร้างความปรองดองอย่างแท้จริงให้เกิดขึ้นให้ได้ ไม่ยังงั้นความขัดแย้งก็จะมีการแสดงออกผ่านท่าที่ของคนไทยในต่างประเทศอยู่ตลอดเวลา แต่สิ่งที่กังวลมากคือ การแสดงออกนายกษิตย์ ภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่น่าจะมีปัญหา เพราะได้วิจารณ์สหรัฐอเมริกาเลยเถิดไปถึงการชวนให้คนไทยต่อต้านรัฐบาลอเมริกัน ต่อต้านนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ รวมถึงต่อต้านนางฮิลลารี คลินตัน ซึ่งเป็นเรื่องน่าห่วง จึงอยากให้พรรคประชาธิปัตย์ทบทวนท่าที ส่วนประชาชนที่แสดงออกทั้งสองฝ่ายให้แสดงออกด้วยสันติ แสดงออกอย่างอารยะ ให้คนอเมริกันเห็นว่าทุกคนได้แสดงออกตามสิทธิ และเสรีภาพภายใต้ของกฎหมาย”